หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค

หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาค

ประวัติของหลวงปู่สีบนเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงปู่สี ฉันทสิริ แห่งวัดเขาถ้ำบุนนาค ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 โดยทางวัดเขาใหญ่ จังหวัดสุพรรณบุรี ระบุอายุของท่านว่า “125 ปี” นับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุกาลสูงทีเดียวรูปหนึ่ง ซึ่งหลวงปู่สีท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2520 มีอายุได้ 128 ปี นับเป็นพระอรหันต์ 7 แผ่นดินเลยทีเดียว ว่ากันว่าวัตถุมงคลของท่านนั้นสุดยอดไม่เป็นสองรองใคร เกจิอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์ท่านก็มี หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง หลวงปู่บุดดา ถาวโร หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ แค่ลูกศิษย์ที่เอ่ยมาก็ดังคับฟ้าแล้วครับ และสุดท้ายยังมี หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จะเห็นได้ว่าหลวงปู่สีนั้นไม่ธรรมดาเลย ทุกวันนี้สรีระร่างของท่านหาได้เน่าเปื่อย บรรจุอยู่ในโลงแก้วให้สานุศิษย์ได้กราบไหว้ ว่าเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ เกิดที่อำเภอรัตนบุรี เข้าไปอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อาศัยอยู่ในวัดสุทัศน์ ศึกษาเล่าเรียนเบื้องต้นที่นี่ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านถูกเกณฑ์ทหาร เมื่อปลดประจำการแล้วไปนครสวรรค์ ประกอบอาชีพล่าสัตว์ และค้าวัวควายอยู่ในอำเภอตาคลี เมื่ออายุ 40 ปี ท่านจึงได้บวชที่วัดบ้านเช่า (บ้านหมี่) จังหวัดลพบุรี มีพระครูธรรมขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชได้ 7 วัน ก็ออกจากวัดบ้านเช่าไปพักจำพรรษาที่ถ้ำเขาเลียบ ในเขตตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เปิดฉากชีวิตธุดงค์ด้วยก้าวแรกที่นี่

หลวงปู่สีไม่เคยสร้างเครื่องรางของขลังและพระเครื่องใดๆ เลยจนกระทั่งปี พ.ศ.2517 เหตุที่ท่านไม่สร้างนั้นด้วยว่าสมัยครั้งที่อายุได้ 70 กว่าปี ยังจำพรรษาอยู่วัดป่า จ.ลพบุรี ได้ทำผ้ายันต์ให้ชายคนหนึ่งไป ซึ่งเป็นโจรปล้นเขย่าขวัญประชาชน เจ้าหน้าตำรวจจับกุมเท่าใดก็รอดไปได้ทุกครั้ง ยิงเท่าไหร่ๆ กระสุนก็ไม่ระคายผิว แต่สุดท้ายตัดสินใจเข้ามอบตัวสำนึกผิดเอง

เมื่อมอบตัวกับตำรวจแล้ว ได้ถามว่ามีของดีอะไร เขาควักผ้ายันต์ของหลวงปู่สีให้ดู หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เดินทางไปกราบหลวงปู่สีถึงวัดป่า และขอร้องว่าต่อไปอย่าให้ของขลังใครอีกเลย กลัวคนที่ได้เป็นโจรปล้น แต่นั้นมาไม่เคยมีใครได้เครื่องรางของขลังจากหลวงปู่สีอีกเลย

จนกระทั่งปี 2517 ท่านมีอายุ 125 ปี 85 พรรษา และมาพำนักอยู่วัดถ้ำบุนนาคแล้ว ทางกรรมการวัดจึงได้ดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถมาตั้งแต่ปี 2514 ติดขัดเรื่องทุนทรัพย์มาโดยตลอด ได้ตัดสินใจกราบขอพึ่งบารมีท่านว่า

“ถ้าหลวงปู่ไม่ออกของขลัง โบสถ์จะไม่เสร็จ”

ท่านจึงเริ่มใช้ชานหมากที่เคี้ยวอยู่แก่คนทั่วๆ ไปที่มากราบท่านเป็นประเดิม  ชานหมากก็ไปสร้างชื่อว่า แคล้วคลาด คงกระพันดียิ่งนัก ซึ่งคนในตลาดตาคลีเข้าใจดีทุกคน  ในที่สุดพระเครื่องต่างๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นทดแทนชานหมากอย่างเป็นเรื่องเป็นราวโดยคณะกรรมการวัดและลูกศิษย์หลายฝ่ายได้ร่วมกัน จึงจัดสร้างขึ้นในรูปของเหรียญและพระเนื้อผง โดยมีเป้าหมายการสร้างอยู่ที่โบสถ์แทบทุกรุ่นทุกพิมพ์

มีของดี 4 พิมพ์ของหลวงปู่สี มาแนะนำกัน คือ พระปิดตาพิมพ์คลุกฝุ่น พระรอด พระปิดตามัดข้าวต้ม และพระผงรูปเหมือนอายุยืน ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 มีพระเกจิอาจารย์ดังอย่างหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมในพิธี ที่เรียกกันว่าพระปิดตาพิมพ์คลุกฝุ่นนี้ เล่ากันว่ามีชายคนหนึ่งถูกยิงจนล้มคลุกฝุ่นแต่กลับลุกขึ้นยืนโดยไม่มีบาดแผลใดๆ ปรากฏเพียงรอยช้ำเท่านั้น

สำหรับเกร็ดปาฏิหาริย์เล่าว่าหลวงปู่สีเป็นผู้ที่สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เช่นเมื่อปี 2512 ท่านบอกกับกรรมการวัดว่า ใต้สระน้ำในวัดของถ้ำบุนนาคนี้มีพระพุทธรูปโบราณ 2 องค์ จมอยู่ ต่อปลายปีน้ำในสระจะแห้งให้ขุดพระขึ้นมาเสีย พอปลายปีน้ำในสระก็แห้งจริง คณะกรรมการวัดลงมือขุดจนพบพระพุทธรูป 2 องค์จริง  หรือคราวหนึ่งหลวงตาแว่นได้ติดตามหลวงปู่สีไปพระบาทสระบุรี แต่พอขากลับฉันอาหารเช้าเสร็จที่พระบาทฯ หลวงปู่สีก็บอกให้ท่านเดินนำหน้า พอเดินมาถึง ต.ช่องแค ปรากฏว่ายังไม่เที่ยง ทันเวลาฉันเพลพอดี  ระยะทางจาก อ.พระพุทธบาท ถึง ต.ช่องแค เกือบๆ 200 กิโลเมตร ถ้านั่งรถยนต์ขับเร็วๆ ก็ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าเดินถึงช่องแคทันฉันเพลได้ยังไง

คอลัมน์ มุมพระเก่า
สรพล โศภิตกุล
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com