พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้สร้างพระเครื่องรางต่างๆ ไว้มาก รวมทั้งปลัดขิกที่มีชื่อมาก (พอๆ กับหลวงพ่อเหลือ แปดริ้ว) ทั้งตะกรุด เสื้อยันต์ เหรียญ พระปิดตา พระสาม และ พระสี่ (พรหมสี่หน้า) กล่าวกันว่าในระยะ พ.ศ. 2483-86 นั้น หลวงพ่ออี๋ ก็มีของดีเกรียงไกรออกสู่สงครามอินโดจีนไปก็มาก ชื่อเสียงของท่านดังขนานไปกับหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกทีเดียว
พระเครื่องรางของขลังของหลวงพ่ออี๋ มีสร้างออกมามากแบบเอาใน พ.ศ. 2484 และตาม พ.ศ. นี้เอง "พระสาม" และ "พระสี่" หรือ พระพรหมสี่หน้า ก็ได้กำเนิดตามออกมาด้วย พระทั้ง 2 พิมพ์เป็นพระเนื้อเมฆพัตร ด้านพุทธคุณมีทั้งแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี พระพรหมสามหน้าของหลวงพ่ออี๋ เป็นเนื้อเมฆพัตร สร้างราวๆ ประมาณช่วงปี พ.ศ. 2483-2485 ทันยุคสมัยของหลวงพ่ออี๋ท่าน เป็นรูปพระปางสมาธิ ซึ่งรุ่นนี้ช่างได้สร้างออกมาเป็นครั้งแรก สร้างเป็น 3 หน้า หรือ 3 ด้าน แต่สร้างผิด คือ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่ออี๋ ตามประสงค์ที่แท้จริงที่ถูกต้องของท่าน ท่านต้องการพระพรหม 4 หน้า ต่อมาจึงได้สร้างให้ถูกต้องตามประสงค์ แล้วก็นำเข้าพิธีพุทธาภิเศกพร้อมกันทั้งพระพรหม 3 หน้า และ 4 หน้า นับว่าเป็นเครื่องรางของขลังอีกประเภทที่ทันหลวงพ่ออี๋ท่าน สำหรับคนที่ไม่สามารถหาเหรียญปี 2473 หรือ 2483 ไว้บูชาได้ พระพรหม 3 หน้า หรือ 4 หน้า หรือวัตถุมงคลประเภทอื่นที่ได้จัดสร้างในสมัยท่านปลุกเสกโดยท่าน ก็สามารถบูชาได้เช่นกัน ซึ่งพุทธคุณก็เหมือนกัน และราคาเช่าหาก็ไม่แรง
พระพรหมสี่หน้า เนื้อเมฆพัตร หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี สุดยอดพุทธคุณด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี จัดสร้างปี 2484 ครับ
ปลัดขิกของพระคณาจารย์รุ่นหลังๆ ทุกคนก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงปลัดขิกของพระครูนิยุตธรรมสุนทร หรือหลวงพ่อยิด แห่งวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยเกียรติคุณด้านประสบการณ์นั้นเหลือคณานับ เครื่องรางของขลังพุทธคุณอันเลื่องลือปลัดขิกที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อยิดเป็นที่กล่าวขานตั้งแต่เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน คือ
๑.การค้าขาย ใช้เอาไปทิ่มกับของที่ขายไม่นานจะเห็นผล และจะค้าขายดีอย่างเทน้ำเทท่า โดยมีเรื่องเล่าว่า มีพ่อค้าคนจีนทำอัญมณีส่งต่างประเทศ เมื่อส่งของไปแล้วถูกส่งกลับคืนมาอ้างว่าของไม่มีคุณภาพ พ่อค้าท่านนี้กลุ้มใจมาก มีคนนำไปหาหลวงพ่อยิดท่านจึงมอบปลัดขิกและบอกให้นำไปทิ่มที่ของซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ถูกส่งกลับคืน แล้วส่งไปอีกครั้ง ปรากฏว่าต่างประเทศชมมาว่าของชุดนี้ถูกใจมาก
๒.เรื่องแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ตะขาบ แตน ต่อ แมงป่อง เอาไปวนบริเวณที่ถูกกัดต่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง รวมทั้งงูมีพิษจะอ้าปากไม่ขึ้นถ้าเราเหยียบ หรือนอนทับงูจะตาย ทั้งนี้มีเรื่องเล่าว่า พ.อ.อ.ศักดิ์ชัย ทรงโกมล สังกัดกองบิน ๕๓ ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าลูกชายของเขาตอนอายุประมาณ ๑๑ ขวบ ถูกต่อหัวเสือ ๓ ตัว ต่อยศีรษะร้องด้วยความเจ็บปวด นึกถึงหลวงพ่อยิด จึงนำปลัดขิกหลวงพ่อยิดขึ้นมาอาราธนาแล้วจิ้มลงไปที่บริเวณโดนต่อย ปรากฏว่าลูกชายหายปวดและหยุดร้องได้
ส่วนวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดที่ขึ้นชื่อคือปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหาริย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงพ่อยิดติดตัวแล้วจะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งมีผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภจากการบูชาวัตถุมงคลจากหลวงพ่อติดตัว ชื่อเสียงของหลวงพ่อจึงโด่งดังมากในยุคนั้น
"ปลัดขิก ขนาดจิ๋ว เนื้อทองแดง" หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ขนาดความยาวประมาณ 2 ซ.ม.
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com
