เหรียญหลวงพ่อเย่อ หลังหลวงพ่อโต เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิ้ล หลวงพ่อเย่อ วัดอาษาสงคราม จ.สมุทรปราการ

หลวงปู่เย่อ โฆสโก พระเกจิอาจารย์ดังของ อ.พระประแดง จ.สมุทร ปราการ เป็นพระเชื้อสายรามัญที่มีชื่อเสียง พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย 

บิดามารดาเป็นชาวรามัญที่เคร่งครัดต่อพระพุทธศาสนา ได้พาไปทำบุญที่วัดด้วย ทำให้เลื่อมใสต่อบวรพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้น เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2444 ขณะท่านมีอายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอาษาสงคราม โดยมีท่านมหาขันธ์ เป็นอาจารย์ให้ศีล หลังจากนั้นได้ศึกษาเล่าเรียนอักขระสมัยทั้งไทยและรามัญจนมีความชำนาญ โดยเฉพาะอักขระขอมรามัญ จึงทำให้ท่านสามารถค้นคว้าตำราและพระคัมภีร์ต่างๆ ของรามัญได้อย่างกว้างขวาง เกิดความรอบรู้ทั้งทางปริยัติธรรมและวิชาแขนงต่างๆ ทางพุทธศาสนา ตลอดจนวิชาการแพทย์ตามแบบโบราณสมัยไว้ช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านอีกด้วย

อายุครบ 20 ปี วันที่ 16 มีนาคม 2451 ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดพญาปราบปัจจามิตร เนื่องจากสมัยนั้นวัดอาษาสงครามยังไม่มีพระอุโบสถและพัทธสีมา ได้รับฉายาว่า โฆสโก แปลได้ว่า ผู้มีธรรมอันกว้างใหญ่ไพศาล

หลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งทางคันถธุระและวิปัสสนาธุระ มีความรู้แตกฉานจนจบโดยเฉพาะบาลีแบบรามัญ แต่ยังไม่ทันได้สอบ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงมีบัญชาให้ยกเลิกการสอบแบบปากเปล่าทั้งทางบาลีไทย ให้สอบโดยการขีดเขียนแทน แบบที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้

หลังจากนั้น ท่านได้มุ่งศึกษาทางปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ค้นคว้าด้วยตนเองจากตำราภาษารามัญจนมีความเข้าใจเป็นอย่างดี ก่อนแสวงหาอาจารย์ผู้ทรงคุณในทางปฏิบัติ ท่านจึงเดินทางไปศึกษากับหลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด (วัดทุ่งโพธิ์ทอง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความสามารถทางวิปัสสนาสูง และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญวิทยาคม 

หลวงปู่เย่อได้ขอศึกษาวิปัสสนากับหลวงพ่อหลิม จนหลวงพ่อหลิมออกปากชมว่า หลวงปู่เย่อมีความพากเพียรพยายามดีมาก ซึ่งในสมัยนั้น การเดินทางจากพระประแดงไปวัดทุ่งบางมดจะต้องใช้เรือแจวไปกว่าจะถึงใช้เวลานานหลายชั่วโมง เมื่อสำเร็จทางวิปัสสนา หลวงพ่อหลิมซึ่งมีความเมตตาหลวงปู่เย่อ จึงได้ให้เรียนวิชาวิทยาคม จนหลวงปู่เย่อเกิดความชำนาญสามารถทำเครื่องรางของขลังที่ได้เรียนมาใช้ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ

หลังจากนั้น ท่านได้ไปขอศึกษาวิชาจากพระอาจารย์กินรี วัดบ้านเชียงใหม่ และพระอาจารย์พันธ์ วัดสะกา ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นเถราจารย์ชาวรามัญที่มีความแก่กล้าทางวิทยาคม หลวงปู่เย่อได้ขอศึกษาสืบต่อวิชาจากท่านพระอาจารย์ทั้งสองนี้ไว้จนจบสิ้น นับว่าท่านมีความเพียรสูง เพราะการศึกษามิใช่เรื่องง่ายๆ จะต้องใช้พลังจิตตั้งใจมากจึงจะสำเร็จ จากนั้นมาท่านเฝ้าเพียรฝึกฝนวิปัสสนาอย่างสม่ำเสมอ ค้นคว้าตำรับตำราของรามัญเก่าๆ ที่มีอย่างเงียบเพียงลำพัง มิได้แสดงตนให้ผู้ใดทราบ ด้วยหลวงปู่เป็นผู้มีความมักน้อย ถ่อมตนอยู่เป็นนิสัย 

หลวงปู่เย่อ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม มีความกรุณาต่อทุกคนที่ไปกราบไหว้ท่านโดยเสมอหน้ากัน ท่านเป็นผู้มีอารมณ์ดีเจรจาปราศรัยด้วยความเป็นกันเอง และไม่เคยอวดอ้างความเก่งกล้าใดๆ ให้ใครรู้เห็น มีแต่คอยสั่งสอนอบรมศีลธรรมแก่ทุกๆ คนที่ไปหาให้หมั่นทำคุณงามความดี ต่อมาปี พ.ศ.2518 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ 'พัดยศสีขาวฝ่ายวิปัสสนา' ในราชทินนามที่ พระครูสังฆวุฒาจารย์ 

วัตถุมงคลของท่านสร้างด้วยความพิถีพิถันเป็นพิเศษทุกขั้นตอน สร้างด้วยความตั้งใจจริง มิได้สร้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ วัตถุมงคลของท่านจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธานุภาพอย่างเหลือล้น มีประสบการณ์มากมาย สามารถคุ้มครองป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ให้แคล้วคลาดปราศจากภัยต่างๆ 

หลวงปู่เย่อ มีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 94 ปี และมรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2524

"เหรียญหลวงพ่อเย่อ หลังหลวงพ่อโต เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิล" หลวงปู่เย่อ วัดอาษาสงคราม จ.สมุทรปราการ เป็นเหรียญที่จัดทำขึ้นโดยกองกษาปณ์ เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่มีอายุครบ 88 ปี จัดสร้างปี 2519 จำนวน 10,000 เหรีญ

กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)

โทร.081-661-9989 

Email:kobsub@hotmail.com

LINE ID:kobsub456