รหัสสินค้า | SKU-02641 |
หมวดหมู่ | หลายพระคณาจารย์ |
ราคา | 5,500.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 17 พ.ค. 2561 |
อัพเดทล่าสุด | 22 พ.ค. 2568 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
พ่อท่านคลิ้ง เกิดที่บ้านถลุงทอง เมื่ออายุได้ 9 ขวบ บิดานำไปฝากพระอุปัชฌาย์ขำ วัดถลุงทอง ให้ได้ศึกษาเล่าเรียนจนอ่านออกเขียนได้ พระอุปัชฌาย์ขำเห็นว่า มีความอดทนดี ว่านอนสอนง่าย มีความจำแม่นยำดี จึงพาไปฝากท่านเจ้าคุณศรีธรรมราช วัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ท่านเจ้าคุณพิจารณาดูโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่าเป็นคนที่มีบุญวาสนาดี จึงรับไว้ในความอุปถัมภ์ ท่านเจ้าคุณฯ ให้การบรรพชาเณรน้อยเมื่ออายุครบ 12 ขวบ ครั้นอายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีหลวงพ่อเอียด เป็นพระอุปัชฌาย์
ในสมัยที่พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ตลาดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ยังมีชีวิตอยู่ ท่านมักพูดให้ผู้ศรัทธาฟังเสมอว่า ท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ท่านเก่ง เป็นพระที่บริสุทธิ์ ควรแก่การกราบไหว้บูชา ด้วยคำพูดประโยคสั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งนี้ ทำให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายเริ่มรู้จักพ่อท่านคลิ้งมากขึ้น และเมื่อได้ใกล้ชิดก็เพิ่มความศรัทธาในตัวพ่อท่านคลิ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับการปฏิบัติของพ่อท่านคลิ้งเคร่งครัด ไม่จับต้องเงินทองเลย และการปฏิบัติต่อผู้ศรัทธาที่ไปหาท่านเสมอเหมือนกันหมดไม่เลือกชั้นวรรณะ
เมื่อครั้งพระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้พูดถึงพ่อท่านคลิ้ง กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล อยู่เสมอว่า หากสิ้นฉันแล้ว ก็ยังมีพระที่น่านับถืออยู่อีกองค์หนึ่ง ขอให้ท่านไปหาเถิด ท่านชื่อคลิ้ง อยู่วัดถลุงทอง เมืองนครศรีธรรมราช ครั้นเมื่อพระอาจารย์นำสิ้นบุญลงแล้ว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้เป็นประธานในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ และในงานนี้ได้จัดสร้างเหรียญพระอาจารย์นำ หลังภปร. ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงาน อีกทั้งได้นึกถึงคำพูดของพระอาจารย์นำ จึงให้คณะกรรมการวัดไปนิมนต์พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง มาทำการปลุกเสกเหรียญ และมาร่วมในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ ชินวโร ที่วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ด้วย
ในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ ชินวโร ที่วัดดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จฯ ทรงเยี่ยมนมัสการพ่อท่านคลิ้ง และพ่อท่านคลิ้งได้ทูลเกล้าถวายน้ำพระพุทธมนต์ ที่พระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
เมื่อครั้งพ่อท่านคลิ้งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ท่านได้ปรารภกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ถึงเรื่องการสร้างสะพานคอนกรีตถาวรข้ามคลองหน้าวัดถลุงทอง ซึ่งพ่อท่านคลิ้ง รอคอยความหวังนี้มาเป็น
ระยะเวลาอันยาวนานที่จะได้เห็นสะพานถาวรเกิดขึ้น เพราะนอกจากจะเกิดประโยชน์แก่พระภิกษุ-สามเณรแล้ว ยังจะเกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่นอีกอย่างใหญ่หลวง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล มีความศรัทธาในพ่อท่านคลิ้ง จึงรับเป็นประธานในการจัดสร้างสะพาน และเห็นว่าต้องใช้งบประมาณถึง 2 ล้านบาท หากประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญด้วยแล้ว ก็จะทำให้ประชาชนทั้งหลายได้กุศลอย่างมาก จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. จารึกประทับหลังเหรียญพ่อท่านคลิ้ง ซึ่งคณะกรรมการวัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกเป็นการตอบแทนผู้ที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้
เหรียญรูปเหมือนพ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ วัดถลุงทอง พ.ศ.๒๕๒๑ ซึ่งจัดสร้างถวายโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนพ่อท่านคลิ้ง ครึ่งองค์เห็นหน้าเฉียง ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์ ภปร.ประดิษฐานเป็นสิริมงคลอันสูงสุด วัตถุประสงค์ในการสร้างเหรียญนี้ เพื่อหาทุนสร้างสะพานคอนกรีตถาวรข้ามคลองหน้าวัดถลุงทอง
เหรียญวัตถุมงคลนี้ผสมแผ่นโลหะลงอักขระเลขยันต์ด้วยมือพ่อท่านคลิ้งเองนับร้อยแผ่น เป็นไปตามตำรับของพ่อท่านโดยตรง ผสมกับชนวนโลหะอิทธิวัตถุของพระอาจารย์นำ ชินวโร จ.พัทลุง ทุกรุ่น และพระบูชาเก่าชำรุดตลอดจนโลหะโบราณอีกมาก พ่อท่านคลิ้งได้ปลุกเสกเดี่ยวที่วัดถลุงทอง จนท่านพอใจแล้ว จึงจัดพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง โดยพระเกจิอาจารย์ภาคใต้ที่ทรงญาณสมาบัติอีก 8 องค์ ซึ่งพ่อท่านคลิ้งเป็นผู้เลือกนิมนต์เองมี หลวงพ่อรอด วัดประดู่, หลวงพ่อผอม วัดหญ้าปล้อง, หลวงพ่อสังข์ วัดเทพมงคล, หลวงพ่อสังข์ วัดดอนตรอ, หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา, หลวงพ่อกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา, หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน และหลวงพ่อแก่น วัดทุ่งหล่อ
ระหว่างปลุกเสกมีพระเกจิอาจารย์รูปร่างสูงใหญ่ดำ ไม่มีใครรู้จักเดินเข้ามานั่งบริกรรมปลุกเสกอีก 1 องค์ เมื่อเสร็จพิธีก็เดินออกจากโบสถ์หายไปอย่างรวดเร็ว โดยมี พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธี
จากนั้นได้นำออกแจกแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญประมาณวันที่ 18 ธันวาคม 2521
พ่อท่านคลิ้งท่านเป็นพระผู้มีบารมีธรรมทางเมตตาสูงส่ง ใครเคยได้สัมผัสท่านจะเกิดความชุ่มชื่นร่มเย็นในใจอย่างบอกไม่ถูก มงคลวัตถุทุกรุ่นที่ท่านปลุกเสก ท่านจะแผ่เมตตาให้อย่างเต็มที่ วัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านจึงมีพลังแห่งความเมตตาอย่างน่าประหลาด ใครเคยอาราธนามงคลวัตถุของท่านแขวนคอ ประสบการณ์ที่ทุกคนพบคือ อำนาจเมตตาสูงมาก และพุทธคุณทางแคล้วคลาดก็ปรากฏให้พบเห็นอยู่บ่อยๆ นอกจากนั้นทางโชคลาภก็ดียิ่ง สามารถอธิษฐานขอลาภผลได้อย่างน่าอัศจรรย์
(ข้อมูลจากจากหนังสือมหามงคลแห่งแผ่นดิน โดยนายอดุลย์นันท์ทัต กิจไชยพร พฤศจิกายน ๒๕๕๑ และ หนังสือที่ระลึก ประกอบ กำเนิดพลอย 16 มกราคม 2548 และบทความจากท่าน วิจิตร ปิยะศิริโสฬส (แพะ สงขลา)
ประสบการณ์เหรียญ พ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร.
ส่วนทางด้านเรื่องราวอภินิหารของ “พ่อท่านคลิ้ง” ที่จะนำมาเล่าขานวันนี้เป็นเรื่องราวของพระเครื่องหลวงพ่อคลิ้ง “เหรียญรูปเหมือนพ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร” ซึ่งจัดเป็นเหรียญ ที่อุดมด้วยสิริมงคลเพราะจัดสร้างในวาระฉลองอายุครบ ๙๓ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ โดย “พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธ์ยุคล” หรือ “เสด็จพระองค์ชายใหญ่” พระโอรสของ “จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯกรมหลวง ลพบุรีราเมศวร์” อดีตผู้สำเร็จราชการมณฑลทักษิณ พร้อมทั้งได้กราบบังคมทูล พระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญตราสัญลักษณ์ “พระปรมาภิไธยย่อ ภปร” ประดิษฐานที่ด้านหลังเหรียญจึงนับเป็นสิริมงคลอันสูงสุด ดังที่ทราบกันดีในวงการนักสะสมว่าวัตถุมงคลที่มีความเกี่ยวเนื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รัชกาลปัจจุบันล้วนเป็นที่นิยมต่อนักสะสมซึ่งถึงแม้ว่าขั้นตอนการสร้างเหรียญของพ่อท่านคลิ้งรุ่นนี้ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มิได้เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีแต่ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ “พ่อท่านคลิ้ง” โดยได้ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม “โลหะธาตุมหามงคล” แล้วพระราชทานให้นำมาหล่อหลอมผสมกับแผ่นทองลงอักขระเลขยันต์ของพ่อท่านคลิ้ง นับเป็นร้อย ๆ แผ่น และโลหะสัมฤทธิ์เก่าสมัยบ้านเชียงที่มีอายุกว่า ๔,๐๐๐ ปี รวมถึงโลหะสัมฤทธิ์อันเป็นชิ้นส่วนของพระพุทธรูปโบราณหลายสมัย เช่น ลพบุรี, ทวารวดี, สุโขทัย ฯลฯ
และจากพิธีสร้างที่ดีเยี่ยมนี้เองจึงเป็นเหรียญพ่อท่านคลิ้ง ที่มีประสบการณ์มากมายอย่างเช่น “นายสุนทร บุญชอุ่ม” ชาวตำบลคานโพธิ์ อ.เมือง จ.สตูล ได้เล่าให้ฟังว่า ตัวเขานั้นมีอาชีพเป็นไต้ก๋งเรือ ประมงขนาดเล็กที่ออกหาปลาในแถบทะเลอันดามัน โดยมีลูกเรือเพียง ๕ คน ซึ่งช่วงที่พบประสบการณ์นั้น นายสุนทรจำได้แม่นว่าเป็นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพราะเป็นฤดูมรสุมทางภาคใต้โดยขณะนำเรือออกหาปลาช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ ปรากฏคลื่นขนาดยักษ์ถล่มเรือประมงของเขาอับปางลง นายสุนทรพร้อมลูกเรือต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางโดย นายสุนทรที่เคยเป็นลูกเรือมาก่อนจึงช่วยเหลือตัวเองด้วยการเกาะเศษไม้จากเรือที่อับปางคอยพยุงตัวเองลอยคออยู่กลางทะเลถึง ๒ วัน ๒ คืน โดยขณะนั้นได้แต่ภาวนาให้ พ่อท่านคลิ้งช่วยเหลือเนื่องจากในคอแขวน “เหรียญพ่อท่านคลิ้งหลัง ภปร” เพียงเหรียญเดียว กระทั่งเช้าตรู่วันที่สามขณะจวนจะหมดแรงอยู่แล้ว ก็มีเรือประมงขนาดใหญ่มาช่วยไว้และหลังจากฟังเรื่องราวของนายสุนทร ทุกคนบนเรือประมงที่มาช่วยต่างสงสัยไปตามๆ กันว่า นายสุนทร รอดได้อย่างไร เพราะเป็นที่รู้กันดีในหมู่ชาวประมงหากเรือประมงขนาดเล็กอับปางลงยังกลางทะเล ยากที่จะมีคนรอดได้แม้จะเก่งด้านว่ายน้ำแค่ไหนก็ตาม เพราะการว่ายน้ำข้ามวันข้ามคืนจะทำให้หมดแรงไปเอง ซึ่งตัวนายสุนทรเองก็ไม่รู้เช่นกันว่ารอดได้อย่างไร เพราะช่วงที่ลอยคออยู่ในทะเลนั้นคลื่นแรงมากปะทะหน้าอกเจ็บระบมไปหมด จึงได้แต่ภาวนาขอให้ “เหรียญพ่อท่านคลิ้ง ภปร” ที่แขวนอยู่ในคอช่วยแล้วกัดฟันว่ายน้ำไป
ประสบการณ์อีกเรื่อง.- นายฉลอง สง่าวงศ์ อาชีพทำไร่อยู่บ้านเลขที่ ๕๕๑ หมู่ ๔ ต.ไร่ใหม่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าตัวเขาชนะคดีความพิพาทกับเพื่อนบ้านเรื่องที่ดิน จึงถูกเพื่อนบ้านผู้นั้นเจ็บแค้นมาตลอด วันหนึ่งในเดือน มิ.ย. ๒๕๔๗ เวลาประมาณสามทุ่มเศษ ขณะ นายฉลองเดินไปตามถนนในหมู่บ้านที่ทั้งมืดและเปลี่ยว ปรากฏมีมือปืนมาซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองกระสุนลูกโดด (ปกติลูกซองจะเป็นกระสุนลูกปราย) สองนัด ปรากฏว่าลูกกระสุนโดนลำตัวนายฉลองอย่างจังแต่นายฉลองกลับไม่เป็นอะไร มือปืนจึงยิงอีก ๒ นัด แต่กระสุนปืนก็ทำอะไรนายฉลองไม่ได้เช่นเคย มือปืนที่ซุ่มยิงจึงวิ่งเข้าหานายฉลองแล้วใช้ด้ามปืนตีท้ายทอยนายฉลองที่ยืนงงอยู่กับที่ถึงกับสลบเหมือดแล้วมือปืนจึงหนีไป กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นจึงมีคนมาพบจึงพยุงนายฉลองกลับบ้าน ปรากฏว่านายฉลองโดนยิงลำตัวถึง ๓ นัด แต่กระสุนไม่เข้าเป็นเพียงรอยช้ำแดง เท่านั้น นายฉลองจึงเชื่อมั่นว่าเป็นเพราะ “เหรียญพ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร” ที่ใส่ตลับสเตนเลสแขวนคอไว้เพียงเหรียญเดียวช่วยไว้ (ข้อความโดยแฉ่ง บางกระเบา)
"เหรียญรูปเหมือนหันข้าง หลัง ภปร.เนื้อทองแดง" พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างเมื่ออายุหลวงพ่อครับ 93 ปี เมื่อ พ.ศ. 2521
หน้าที่เข้าชม | 1,704,873 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,227,616 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 มี.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |