เหรียญหล่อหลวงพ่อโต เนื้อเงิน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี

เหรียญหล่อหลวงพ่อโต เนื้อเงิน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
เหรียญหล่อหลวงพ่อโต เนื้อเงิน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรีเหรียญหล่อหลวงพ่อโต เนื้อเงิน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรีเหรียญหล่อหลวงพ่อโต เนื้อเงิน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
รหัสสินค้า SKU-02799
หมวดหมู่ หลายพระคณาจารย์
ราคา 85,000.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 13 มิ.ย. 2561
อัพเดทล่าสุด 31 พ.ค. 2568
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณมาแต่โบราณกาล ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแลโปรดให้บูรณะวัดป่าเลไลยก์ เมื่อ พ.ศ.1724 แสดงว่าวัดนี้ได้สร้างมาแล้วก่อนหน้านั้น องค์พระหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สูงใหญ่ มองเห็นเด่นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางป่าเลไลยก์ ขนาดใหญ่สูง 23 เมตรเศษ สร้างตามแบบศิลปะอู่ทอง ซึ่งเป็นศิลปะฝีมือสกุลช่างอู่ทองแท้ๆ เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง พระหัตถ์ขวาหัก ช่างได้สร้างวิหารครอบ โดยให้ผนังวิหารชิดกับพระหัตถ์ขวา ส่วนทางพระหัตถ์ซ้ายให้มีที่ว่าง ด้านหลังองค์พระสร้างชิดกับผนังวิหารทำให้แข็งแรง นับเป็นความชาญฉลาดของช่างเป็นอย่างยิ่ง
เหรียญหล่อหลวงพ่อโต หลังพระมหามงกุฏและรูปพระผงสุพรรณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่มากเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ของจังหวัดสุพรรณบุรี และ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาร่วมปลุกเสกอาทิเช่น
1.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
2.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
3.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
4.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุ่งเทพ
5.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตย์ตราราม อยุธยา
6.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
7.ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ฯลฯ
เหรียญหล่อหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ปี 2515 รุ่นนี้ที่นิยมกันโดยเฉพาะคนในพื้นที่ นอกจากความเข้มขลังของคณาจารย์ และยังเป็นพิธีการปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของ จ.สุพรรณบุรี องค์พระยังออกแบบได้อ่อนช้อยสวยงาม ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระผงสุพรรณอยู่ใต้ตรามงกุฏของ ร.๔ โดยผู้ออกแบบและปั้นพิมพ์พระคือช่างเกษม มงคลเจริญ ช่างปั้นพระมือหนึ่งของไทยในยุคนั้น
เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พ.ศ.๒๕๑๕ เหตุผลดีดีที่ควรเสาะแสวงหาพระรุ่นนี้มาบูชาครับ
ข้อที่ 1 คือหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ นั้นมีประวัติที่น่าสนใจอยู่ครับว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ในครั้งที่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์นั้น มีโอกาสเดินทางมาสักการะหลวงพ่อโตฯ และอธิษฐานต่อหน้าองค์หลวงพ่อโตฯ ว่า "หากได้ขึ้นครองราชย์ จะกลับมาบูรณะปฏิสังขรณ์ถวาย" ซึ่งก็เป็นไปตามที่ทุกท่านทราบครับว่า ท่านก็ได้ขึ้นครองราชย์และกลับมาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ตามสัจจะที่ได้อธิษฐานไว้ ซึ่งก็พอจะสรุปได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโตฯ ในนัยยะของคำว่า "สมปรารถนา" ขอได้ไหว้รับ หากไม่เกินแต่กรรมของบุคคลนั้น
ข้อที่ 2 คือ หลวงโตฯ นั้นถูกสันนิษฐานว่ามีอายุไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งการที่พระพุทธรูปขนาดใหญ่จะสามารถรอดพ้นช่วงเวลาของสงครามมาได้หลายครั้ง หลายครา ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่อง "แคล้วคลาด นิรันตราย" ครับ
ข้อที่ 3 คือ หลวงพ่อโตฯ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ หรือพระพุทธรูปประจำตัวของบุคคลที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) นั้น ในเชิงโหราศาตร์เชื่อว่า ผู้ใดที่บูชา "เทพพระพุธ" จักเป็นผู้ที่มีเมตตามหานิยม เจรจาค้าขายคล่องตัว ไม่ติดขัด และพระพุทธรูปปางเลไลยก์ นั้นตามตำนานกล่าวว่า ครั้งพระพุทธองค์ทรงเสด็จปลีกวิเวกเข้าไปจำพรรษาอยู่ในป่ารักขิตวัน มีพญาช้างปาลิไลยกะ และพญาลิง คอยอุปัฏฐาก ให้ร่มเย็นเป็นสุขปลอดภัยจากภัยอันตรายในป่าใหญ่ทั้งหลาย และนำสิ่งของต่างๆ มาถวาย ซึ่งผู้ใดที่บูชาพระปางเลไลยก์นี้ จักเป็นผู้ที่มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข อุดมไปด้วยโภคสมบัติ มิขาดสาย
ข้อที่ 4 คือ ถ้าผมจะไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ ในเรื่องของพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม, หลวงพอมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รวมไปถึงหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ ซึ่งผมคงจะไม่ต้องลงรายละเอียดถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ของพระเถราจารย์ทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่าง แต่สิ่งที่ผมอยากให้ทุกท่านได้รับทราบและเข้าใจตรงกันก็คือ ทุกรูปล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมในการประจุพุทธาคมลงในวัตถุงมงคลชุดนี้ครับ
คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ.-แล้วว่า
โตเสนโต      วะระธัมเมนะ
โตสัฏฐาเน     สิเว วะเร
โตสังอะกาสิ   ชันตูนัง
โตสะจิตตัง     นะมามิหัง
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989 
Email:kobsub@hotmail.com
LINE ID:kobsub456
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณมาแต่โบราณกาล ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแลโปรดให้บูรณะวัดป่าเลไลยก์ เมื่อ พ.ศ.1724 แสดงว่าวัดนี้ได้สร้างมาแล้วก่อนหน้านั้น องค์พระหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สูงใหญ่ มองเห็นเด่นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางป่าเลไลยก์ ขนาดใหญ่สูง 23 เมตรเศษ สร้างตามแบบศิลปะอู่ทอง ซึ่งเป็นศิลปะฝีมือสกุลช่างอู่ทองแท้ๆ เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง พระหัตถ์ขวาหัก ช่างได้สร้างวิหารครอบ โดยให้ผนังวิหารชิดกับพระหัตถ์ขวา ส่วนทางพระหัตถ์ซ้ายให้มีที่ว่าง ด้านหลังองค์พระสร้างชิดกับผนังวิหารทำให้แข็งแรง นับเป็นความชาญฉลาดของช่างเป็นอย่างยิ่ง
เหรียญหล่อหลวงพ่อโต หลังพระมหามงกุฏและรูปพระผงสุพรรณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่มากเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ของจังหวัดสุพรรณบุรี และ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาร่วมปลุกเสกอาทิเช่น
1.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
2.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
3.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
4.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุ่งเทพ
5.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตย์ตราราม อยุธยา
6.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
7.ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ฯลฯ
เหรียญหล่อหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ปี 2515 รุ่นนี้ที่นิยมกันโดยเฉพาะคนในพื้นที่ นอกจากความเข้มขลังของคณาจารย์ และยังเป็นพิธีการปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของ จ.สุพรรณบุรี องค์พระยังออกแบบได้อ่อนช้อยสวยงาม ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระผงสุพรรณอยู่ใต้ตรามงกุฏของ ร.๔ โดยผู้ออกแบบและปั้นพิมพ์พระคือช่างเกษม มงคลเจริญ ช่างปั้นพระมือหนึ่งของไทยในยุคนั้น
เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พ.ศ.๒๕๑๕ แน่นอนครับว่าผมคงจะไม่แนะนำโดยปราศจากเหตุผลดีดีในการเสาะหามาบูชาอย่างแน่นอน
ข้อที่ 1 คือหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ นั้นมีประวัติที่น่าสนใจอยู่ครับว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ในครั้งที่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์นั้น มีโอกาสเดินทางมาสักการะหลวงพ่อโตฯ และอธิษฐานต่อหน้าองค์หลวงพ่อโตฯ ว่า "หากได้ขึ้นครองราชย์ จะกลับมาบูรณะปฏิสังขรณ์ถวาย" ซึ่งก็เป็นไปตามที่ทุกท่านทราบครับว่า ท่านก็ได้ขึ้นครองราชย์และกลับมาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ตามสัจจะที่ได้อธิษฐานไว้ ซึ่งก็พอจะสรุปได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโตฯ ในนัยยะของคำว่า "สมปรารถนา" ขอได้ไหว้รับ หากไม่เกินแต่กรรมของบุคคลนั้น
ข้อที่ 2 คือ หลวงโตฯ นั้นถูกสันนิษฐานว่ามีอายุไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งการที่พระพุทธรูปขนาดใหญ่จะสามารถรอดพ้นช่วงเวลาของสงครามมาได้หลายครั้ง หลายครา ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่อง "แคล้วคลาด นิรันตราย" ครับ
ข้อที่ 3 คือ หลวงพ่อโตฯ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ หรือพระพุทธรูปประจำตัวของบุคคลที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) นั้น ในเชิงโหราศาตร์เชื่อว่า ผู้ใดที่บูชา "เทพพระพุธ" จักเป็นผู้ที่มีเมตตามหานิยม เจรจาค้าขายคล่องตัว ไม่ติดขัด และพระพุทธรูปปางเลไลยก์ นั้นตามตำนานกล่าวว่า ครั้งพระพุทธองค์ทรงเสด็จปลีกวิเวกเข้าไปจำพรรษาอยู่ในป่ารักขิตวัน มีพญาช้างปาลิไลยกะ และพญาลิง คอยอุปัฏฐาก ให้ร่มเย็นเป็นสุขปลอดภัยจากภัยอันตรายในป่าใหญ่ทั้งหลาย และนำสิ่งของต่างๆ มาถวาย ซึ่งผู้ใดที่บูชาพระปางเลไลยก์นี้ จักเป็นผู้ที่มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข อุดมไปด้วยโภคสมบัติ มิขาดสาย
ข้อที่ 4 คือ ถ้าผมจะไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ ในเรื่องของพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม, หลวงพอมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รวมไปถึงหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ ซึ่งผมคงจะไม่ต้องลงรายละเอียดถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ของพระเถราจารย์ทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่าง แต่สิ่งที่ผมอยากให้ทุกท่านได้รับทราบและเข้าใจตรงกันก็คือ ทุกรูปล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมในการประจุพุทธาคมลงในวัตถุงมงคลชุดนี้ครับ
คาถาบูชา ตั้งนะโม 3 จบ.-แล้วว่า
                โตเสนโต                วะระธัมเมนะ
                โตสัฏฐาเน              สิเว วะเร
                โตสังอะกาสิ            ชันตูนัง
                โตสะจิตตัง             นะมามิหัง
New layer...

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขานครปฐม ออมทรัพย์

หน้าที่เข้าชม1,704,873 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,227,616 ครั้ง
เปิดร้าน22 มี.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท4 ก.ย. 2568

081-6619989 ,083-9566942
พูดคุย-สอบถาม