"แก้วมณีนาคราช" เป็นดวงแก้วประจำกายของพญานาคและเกิดขึ้นด้วยบุญญฤทธิ์ของพญานาคนั้นๆ การปรากฏของดวงแก้วประจำกายมิได้เกิดขึ้นพร้อมการจุติแบบโอปปาติกะของพญานาค แต่จะบังเกิดขึ้นในวัยอันควร เมื่อถึงเวลาที่พญานาคนั้นโตเต็มที่ ก็จะต้องไปจำศีลเข้าฌาณสมาบัติ เพื่อชำระกายใจให้บริสุทธิ์ เตรียมรองรับการปรากฏของดวงแก้วมณีประจำกายแห่งตน คล้ายกับการปรากฏขึ้นของดวงแก้วมณีแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ
ครั้นถึงคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ ผลของบุญกุศลที่เคยสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีตจะรวมตัวกัน ดลบันดาลให้ดวงแก้วมณีของพญานาคบังเกิดขึ้น ดวงแก้วมณีจะเปล่งประกายรัศมีสว่างไสวทั่วทั้งภพบาดาล และบันดาลให้เกิดทิพยสมบัติต่างๆ เกิดขึ้นตามกำลังบุญของพญานาค หากเป็นพญานาคผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จะเกิดทิพยสมบัติมากมายกว่าพญานาคอื่นๆ ที่อยู่เดิมคล้ายการจุติของเทวดาเหล่าอื่นๆ พญานาคผู้เป็นเจ้าครองนครองค์เดิมจะต้องสละสมบัติเพื่อให้ท่านผู้ที่มีบุญญาธิการมากกว่า เพื่อครองนครบาดาลแห่งนั้นสืบต่อไป การปกครองในภพบาดาลนั้นถือหลักบุญญาธิปไตย คือผู้มีบุญญาธิการมากกว่าปกครองผู้ที่มีบุญน้อยกว่า
สำหรับอานุภาพของแก้วมณีพญานาค จะคล้ายกับดวงแก้วมณีซึ่งเป็น ๑ ในรัตนะทั้ง ๗ แห่งพระเจ้าจักรพรรดิ สามารถบันดาลข้าวปลาอาหารทิพย์ ทิพยวิมาน และทิพยสมบัติอื่นๆ เช่นแก้ว แหวน เงิน ทองต่างๆ ตามกำลังบุญ ดวงแก้วมณีนาคราชจึงเป็นของที่รักและหวงแหนของพญานาคมาก เนื่องจากเป็นเครื่องบันดาลให้เกิดทรัพย์อย่างอื่น เช่น อาหารทิพย์ ทิพย์วิมาน และทิพยสมบัติต่างๆ แก่พญานาค
นอกจากนี้ แก้วมณีนาคราชยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ใช้ในการจำศีล ทุกๆ ปีพญานาคที่นับถือพระพุทธศาสนาจะตั้งใจจำศีลในช่วงเวลาเข้าพรรษา จำเป็นต้องมีแก้วมณีนาคราชสำหรับบันดาลอาหารทิพย์ต่างๆ และป้องกันภัยในระหว่างจำศีลในแต่ละครั้ง หากปราศจากดวงแก้วมณี พญานาคตนนั้นจะไม่สามารถจำศีลได้
การจำศีลของพญานาคนั้นคล้ายการถืออุโบสถศีลของมนุษย์ เป็นการเข้าฌานสมาบัติ งดเว้นการเสพกาม การเสวยทิพยสมบัติอื่นๆ รวมถึงงดเว้นการใช้ฤทธิ์ต่างๆ ด้วย เป็นการรักษาใจให้บริสุทธิ์ ทำใจน้อมระลึกถึงพุทธานุสติเพียงอย่างเดียว พญานาคที่เคยเกิดทันในสมัยพุทธกาลในวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมาจากการโปรดพระพุทธมารดาในวันออกพรรษา และเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ และได้เห็นพุทธานุภาพนั้น ก็จะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่พญานาครุ่นหลัง ให้ทำใจน้อมระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ระยะเวลาการถือศีลนั้น พญานาคจะนับตามวันเดือนเกิดและเดือนดับตามจันทรคติของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
“แก้วมณีนาคราช” สามารถเสด็จได้ไปไหนมาไหนได้เพราะเป็นวัตถุธรรมชาติที่มีพลังอานุภาพอยู่ในตนเองและมีเทพเทวดามาสถิตย์ดูแลรักษา เนื่องจากเป็นทรัพย์สมบัติของพระศาสนาที่รอเวลาปรากฏขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา ซึ่งเทพเทวดาในแต่ละองค์ย่อมมีอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์และคุณธรรมที่แตกต่างกันไป
จากคำบอกเล่าของผู้ที่พบเห็นการเสด็จของ "แก้วมณีนาคราช” จะเกิดขึ้นในคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ จะเห็นดวงแก้วมณีผุดมาจากพื้นน้ำ หรือพื้นดิน(แต่มีน้อย) แล้วพุ่งลอยขึ้นไปเป็นดวงแสงสว่างไสวลอยวนเวียนไปมาแล้วก็หายไป เมื่อไปขุดบริเวณที่หายไปนั้นจะพบแก้วมณีนาคราชดังกล่าว แก้วมณีนาคราชจะมีขนาดลูกใหญ่เล็กแตกต่างกันไป แก้วมณีนาคราชมักจะปรากฏหรือพบมากในช่วงระหว่างเข้าพรรษา และออกพรรษา ช่วงเวลาอื่นจะพบเหมือนกันแต่น้อย
ในอดีตมีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่มีแก้วมณีนาคราชดูแลอยู่ และมีที่มาแตกต่างกันไป เช่น
-หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อครั้งสมัยที่ท่านยังเยาว์วัยเป็นทารก ขณะที่นอนหลับอยู่ในเปล มีงูตระบองสลาตัวใหญ่มาขดพันอยู่รอบเปล และไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้เปล จนกระทั่งมารดาของท่านหาข้าวตอกดอกไม้และธูปเทียนมาสักการะบูชา พญางูจึงคลายลำตัวออกจากเปลและเลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้วบิดามารดาทั้งญาติต่างพากันมาที่เปลด้วยความห่วงใยทารก ก็ปรากฏว่าเด็กชายปูยังคงนอนหลับอยู่เป็นปกติแต่เหนือทรวงอกของทารกกลับมีดวงแก้วดวงหนึ่งมีแสงรุ่งเรืองเป็นรัศมีหลากสี บิดามารดาของท่านจึงเก็บรักษาไว้จนกระทั่งท่านโตขึ้นได้อุปสมบทบวชเรียนเป็นพระภิกษุ และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เคารพบูชาแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป
-หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ท่านมีแก้วมณีนาคราชสีเขียวขนาดใหญ่ และประดิษฐานไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไว้บูชาจนถึงปัจจุบันนี้
สำหรับครูบาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้แก่ "พระอาจารย์บรรลังก์" เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทยโสธร จ.ยโสธร เป็นศิษย์เจ้าคุณโฮมอดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม จ.กรุงเทพฯ สายพระกรรมฐานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มีลูกแก้วเสด็จมาปรากฏไว้ให้ท่านพระอาจารย์ดูแลเป็นจำนวนหนึ่ง
สำหรับผู้ที่มีแก้วมณีนาคราชไว้ดูแลนั้น ในการบูชาที่พญานาคชอบมากที่สุด คือ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นสวดมนต์เจริญพระกรรมฐาน และแผ่เมตตาอุทิศให้แก่พญานาคผู้เป็นเจ้าของอย่างสม่ำเสมอ
การอธิษฐานขอสิ่งใดจากแก้วมณีนาคราชนั้น ให้ผู้ดูแลแก้วมณีนาคราชรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิสม่ำเสมอ การอธิษฐานขอได้เพียงครั้งละ ๑ อย่าง หมายถึง ถ้าอธิษฐานครั้งแรกแล้ว สิ่งนั้นสำเร็จ จึงจะอธิษฐานขอสิ่งต่อไป ถ้าไม่เกินกฎแห่งกรรม ท่านจะดลบันดาลให้สมความปรารถนาในสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นการสั่งสมบุญบารมีของตนให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรมด้วย
มีบางท่านที่ทำทาน รักษาศีล และเจริญพระกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้แก้วมณีนาคราชมา บุญกุศลที่เต็มเปี่ยมแล้วจะส่งผลให้พบกับโชคลาภ หรือได้ทรัพย์มาแบบอัศจรรย์ ได้มาโดยที่ไม่ต้องอธิษฐานขอแต่อย่างใด ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยบุญญฤทธิ์อย่างแท้จริงเช่นเดียวกับการปรากฏขึ้นของดวงแก้วมณีนาคราชบังเกิดขึ้น สมบัติต่างๆ ก็เกิดขึ้นมาตามมากำลังบุญของแต่ละบุคคล
หากต้องการให้ลูกแก้วพญานาคเพิ่มอานุภาพ ให้อันเชิญดวงแก้วมณีนาคราชไปอาบแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ จะช่วยเพิ่มพลานุภาพให้ลูกแก้วมีพลังมากยิ่งขึ้น
สำหรับมณีนาคราชที่ผมได้มานี้ ได้มาจากคณะสงฆ์ที่มาหาทุนเพื่อจัดสร้างพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จังหวัดร้อยเอ็ด ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกแก้วที่มีให้บูชาทั่วไป ภายหลังได้สนธนาธรรมจึงได้รู้ความเป็นมาว่า ดวงแก้วมณีนี้พระปฏิบัติรูปหนึ่งได้ปฏิบัติอยู่บนภูเขาเขตติดต่อระหว่างจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ถูกงูกะปะซึ่งเป็นงูมีพิษกัดเอา เนื่องจากปฏิบ้ติอยู่ในป่าจึงไม่มียารักษา จึงได้ถือการปฏิบัติเป็นพุทธโอสถ ในระหว่างที่กำลังเจริญจิตภาวนาได้นิมิตเห็นสตรีนุ่งขาวห่มขาวผมยาว มาบอกให้ไปนำหินซึ่งอยู่กลางแม่น้ำโขงขึ้นมา โดยบอกลักษณะต่างๆ ไว้ เพราะนางต้องการสร้างบารมีร่วมสร้างพระใหญ่ด้วย และห้ามผู้ชายไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่แตะต้องโดยเด็ดขาดเพราะกำลังถือศีลอยู่ มิฉะนั้นจะบังเกิดเภทภัย ครั้นอาการอาพาธหาย จึงได้ทำพิธีบวงสรวงนำก้อนหินนี้ที่มีลักษณะพิเศษขึ้นมาและได้กลึงให้เป็นรูปทรงกลม ขนาดเท่าลูกนิมิต มีสีเขียวใส และขณะที่ทำธีบวงสรวงปรากฏมีหินขนาดเล็กผุดขึ้นมา ท่านจึงได้นำมากลึงเป็นก้อนเล็กขนาดเท่าลูกแก้ว มีสีแตกต่างกันเพื่อให้ผู้ที่มีความเคารพหรือมีบุพพกรรมต่อกันได้บูชา
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com