รูปเหมือนปั๊ม รุ่นสร้างมณฑป เนื้อทองแดง หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์

พระเดชพระคุณพระครูนิสัยจริยคุณ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์ มีความประสงค์จัดสร้างมณฑปเพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระธาตุ ส่วนชั้นล่างจะใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์ และเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บวัตถุโบราณของเมืองจันเสน จึงได้มอบหมายให้คุณประสิทธิ์ โตวิวัฒน์ เป็นผู้ติดต่อสถาปนิกออกแบบแปลนมณฑปพร้อมทั้งดำเนินจัดสร้างวัตถุมงคล "รุ่นสร้างมณฑป"

วัตถุมงคลรุ่นนี้เป็นรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อโอดปั๊มลอยองค์ในท่านั่งขัดสมาธิ จัดสร้างในปี พ.ศ.2531 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนทรัพย์ในการสร้างมณฑป มีทั้งหมด 4 เนื้อ คือ
1.เนื้อเงิน จำนวน 500 องค์
2.เนื้อทองเหลือง จำนวน 10,000องค์
3.เนื้อทองแดง จำนวน 7,000 องค์
4.เนื้อตะกั่ว จำนวน 3,000 องค์

รูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อโอด รุ่นสร้างมณฑป ปี 2531 มีโค้ดการตอกทุกเนื้อ ด้านหน้ารูปหล่อเหมือน มีตัวหนังสือนูน เขียนว่า "พระครูนิสัยจริยคุณ" พร้อมปั๊มอักขระขอม "ตัวนะ" จำนวน 3 ตัว ที่สังฆาฏิด้านหน้า
ด้านหลัง บริเวณใต้ฐานเขียนว่า "วัดจันเสน"

หลวงพ่อโอดได้เริ่มปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลชุดนี้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงเวลา 4 นาฬิกา ของวันใหม่ทุกคืน เป็นเวลา 7 วัน และท่านได้พูดกับบรรดาลูกศิษย์ว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นทิ้งทวน ต้องปลุกเสกให้เป็นพิเศษ สำหรับแม่พิมพ์และโค้ต เมื่อสร้างและตอกโค้ตครบทุกชนิดแล้วก็ได้ทำลาย แล้วนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด จึงตัดปัญหาไปได้สำหรับเรื่องของเสริมนอกพิธี เพราะเป็นพระเครื่องวัตถุมงคลที่สร้างเพื่อการกุศล แม้วัตถุมงคลชุดนี้จะสร้างเมื่อไม่นานนัก แต่จากประสบการณ์ที่มีมากมายเหลือจะกล่าวนั้น จึงเป็นเหตุให้พระเครื่องวัตถุมงคงรุ่นสร้างมณฑปนี้เป็นที่สนใจและต้องการของนักสะสมพระเครื่องกันมาก โดยเฉพาะเหล่าทหารและตำรวจจะนิยมกันมากเป็นกรณีพิเศษ ก็เนื่องมาจากตำรวจห้อยรูปเหมือนรุ่นนี้ไปจับผู้ร้ายแล้วถูกคนร้ายยิงไม่เข้า จึงเกิดการแสวงหากัน ประสบการณ์ทางคงกระพันมีกันหลายราย แม้แต่ทางแคล้วคลาดก็ไม่เบาเช่นกัน 

รูปเหมือนปั๊ม รุ่นสร้างมณฑป มีความนิยมสูงสุดในบรรดาพระเครื่องทั้งหมดของหลวงพ่อ เนื่องด้วยมีความเหมือนหลวงพ่อโอดมากที่สุด มีความสวยงาม มีการจัดสร้างที่รัดกุม มีการตอกโค๊ต เพื่อป้องกันการปลอมแปลง อักทั้งวัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง ยังมีเจตนาที่บริสุทธิ์ชัดเจน จึงทำให้มีราคาค่านิยมที่สูงกว่า และราคาในการเช่าหาก็ยังสูงกว่ารูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก ซึ่งออกในปี พ.ศ.2524 เสียอีก