เหรียญสมเด็จหลวงปู่ทวด อาศรมชีประขาว อาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว จ.กาญจนบุรี

เหรียญสมเด็จหลวงปู่ทวด อาศรมชีประขาว อาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว จ.กาญจนบุรี
เหรียญสมเด็จหลวงปู่ทวด อาศรมชีประขาว อาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว จ.กาญจนบุรีเหรียญสมเด็จหลวงปู่ทวด อาศรมชีประขาว อาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว จ.กาญจนบุรี
รหัสสินค้า SKU-04549
หมวดหมู่ หลายพระคณาจารย์
ราคา 4,500.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 21 พ.ย. 2563
อัพเดทล่าสุด 22 พ.ค. 2568
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ในอดีตกว่าสี่ร้อยปีมาแล้ว บารมีของท่านแผ่ไพศาลจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวปาฏิหาริย์เกี่ยวกับหลวงปู่ทวดมีมากมายเล่าขานกันไม่หวาดไม่ไหว สำหรับวัตถุมงคลที่สร้างในรูปแบบพระเครื่องแล้ว เป็นที่เชื่อถือกันในกลุ่มผู้มีคตินิยมแนวนี้ว่านิรันตรายเป็นเลิศ มีเรื่องน่าประหลาดใจอยู่เรื่องหนึ่งครับคือ เรื่องราวความเป็นมาของหลวงปู่ทวด ถ้าเราสังเกตดูแล้วจะพบว่าประวัติของท่านมีเพียงแต่การบันทึกในรูปแบบลายลักษณ์อักษรเท่านั้น โดยไม่เคยมีผู้ใดได้เห็นหน้าตาของหลวงปู่ทวดว่าเป็นอย่างไร รูปร่างสูงต่ำขนาดไหน และทำไมถึงมีการจัดสร้างวัตถุมงคลรูปเหมือนของท่านออกมาได้ เขาเหล่านั้นใช้หลักการอะไร จินตนาการแบบไหน วิธีการได้มาทำอย่างไร ฯลฯ หมุนเข็มนาฬิกาย้อนหลังไปสักประมาณห้าสิบปี ในยุคสมัยนั้น ร้อยเอกทวี ทิวแก้ว หรือ อาจารย์ทวี ทิวแก้ว แห่งอาศรมชีปะขาว ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมและมีญาณที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องของพลังจิต เป็นที่เชื่อถือกันในกลุ่มลูกศิษย์และผู้ที่เคารพในตัวท่านว่าพลังจิตของท่านแจ่มใสดุจดั่งดวงแก้วจนสามารถติดต่อกับญาณบารมีของพระเกจิอาจารย์หรือพระเถระชั้นสูงที่ได้ล่วงลับไปแล้ว  
อาจารย์ ร.อ.ทวี ทิวแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๖๑ เวลา ๒๐.๑๕ น. สมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่ของท่านได้นำท่านไปฝากไว้กับพระที่วัดหนัง (ธนบุรี) ซึ่งช่วงนั้นทางวัดหนัง (ธนบุรี) ได้เปิดให้มีการสอนเด็กๆ ประมาณ ๗๐ คน ให้หัดนั่งปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน ต่อมาปรากฏว่า ท่านพระภาวนาโกศล (เอี่ยม) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม ท่านเจ้าคุณเฒ่า หรือ หลวงปู่เอี่ยม เจ้าอาวาสวัดหนัง (ธนบุรี) ในสมัยนั้น ท่านได้คัดเลือกเด็กชายทวี ซึ่งมีอายุเพียง ๗ ขวบเพียงคนเดียว เพื่อให้คอยปรนนิบัติและให้เข้าไปฝึกปฏิบัติสมาธิในกุฏิของท่านทุกคืน จนเด็กชายทวีโตเป็นหนุ่ม อาจารย์ทวีถูกเกณฑ์ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก เมื่อรับราชการจนครบกำหนดแล้ว ท่านจึงลาออกจากราชการทหาร และได้ไปทำงานในเรือเดินทะเลค้าขายระหว่างประเทศ ลูกศิษย์ของอาจารย์ทวีท่านหนึ่งได้เขียนถึงคุณวิเศษและลักษณะนิสัยของอาจารย์ทวีไว้ว่า ครั้งหนึ่งเครื่องยนต์ของเรือได้ดับกลางทะเล แก้ไขอย่างไรก็ไม่สำเร็จ อาจารย์ทวีได้ใช้สมาธิจิตเพ่งจุดหัวเทียน ทำให้เครื่องเรือติดและสามารถวิ่งเข้าฝั่งได้ และด้วยความที่ท่านเป็นคนที่ไม่นิยมการเที่ยวเตร่ ดังนั้นเมื่อกลับเข้าฝั่ง ท่านจึงมักเข้าไปอยู่ในป่าแถบภาคใต้ เพื่อหาความสงบจากการฝึกปฏิบัติสมาธิกรรมฐานตลอดเวลา ในช่วงที่อาจารย์ทวีอยู่ในป่า ท่านได้พบกับพระธุดงค์องค์หนึ่ง ซึ่งมาแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ท่านเห็นหลายอย่าง แต่ตัวของอาจารย์ทวีเองกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือแปลกใจแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อพระธุดงค์องค์นั้นชักชวนให้ท่านไปเรียนวิชา ท่านจึงได้ปฏิเสธออกไป โดยท่านให้เหตุผลว่า ท่านมีครูบาอาจารย์อยู่แล้ว คือ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พระธุดงค์องค์นั้นก็ไม่ได้ละความพยายามได้เวียนมาชักชวนท่านถึงสามครั้ง โดยครั้งสุดท้ายพระองค์นั้นได้มาในร่างของสงฆ์แต่แต่งชุดขาวเป็นชีปะขาว และบอกว่าชื่อของท่านคือ หลวงปู่ทวด มีความต้องการรับอาจารย์ทวีเข้าเป็นลูกศิษย์ เมื่ออาจารย์ทวีได้ทราบว่าพระธุดงค์องค์นี้คือหลวงปู่ทวด ท่านจึงน้อมรับเข้าฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) และได้รับการถ่ายทอดวิชาสมาธิจิตและวิชาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงปู่ทวดให้กับท่าน หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) ได้บอกกับท่านว่า หลวงปู่ปรารถนาพุทธภูมิ คือ เจตนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต แต่ขณะนี้ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ดังนั้นคาถาที่ใช้สวดบูชาและนมัสการท่านคือ นะโม โพธิสัตว์โต อาคันติมายะ อิติภะควา 
คุณวิเศษเฉพาะตัวของอาจารย์ทวี ทิวแก้ว ตามที่ผมได้ศึกษามาจากบทความของท่านพันโท นายแพทย์สมพนธ์ บุณยคุปต์ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ก็คือการที่อาจารย์ทวี สามารถนั่งสมาธิตรวจสอบได้อย่างแม่นยำเป็นที่อัศจรรย์ใจ เช่น การที่นายแพทย์สมพนธ์ ได้นำผ้าเช็ดหน้าห่อพระเครื่องไว้สามองค์ อาจารย์ทวีสามารถนั่งสมาธิตรวจสอบได้ว่าในห่อผ้านั้นมีพระอยู่กี่องค์และ เป็นพระอะไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้อาจารย์ทวี ท่านได้บอกไว้ว่าเป็นเรื่องของการใช้พลังจิต อธิบายความได้ว่าเกิดจากการทำสมาธิให้จิตนิ่งและนำจิตนั้นไปใช้งาน เหมือนพลังงานอื่นๆ และเมื่อนายแพทย์สมพนธ์ ต้องการทดสอบเรื่องของความแรงของพลังจิต โดยให้ช่วยตรวจสอบพลังของพระพุทธรูปที่บ้านพัก อาจารย์ทวีก็สามารถบอกได้อย่างถูกต้องว่า พระพุทธรูปเชียงแสน ๑ ที่บ้านของนายแพทย์สมพนธ์ มีพลังงานแรงมากแต่ชำรุด ซึ่งเมื่อมีการนำพระองค์ดังกล่าวมาตรวจสอบก็พบว่า พระองค์นั้นเศียรหักและถูกต่อคอเอาไว้ ด้วยความที่นายแพทย์สมพนธ์ ท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้ท่านอยากพิสูจน์พลังของจิต ท่านจึงได้เอาแผ่นตะกั่วที่กันแสงเอกซเรย์ได้ มาทุบเป็นกล่องสี่เหลี่ยมครอบกันเอาไว้แล้วเอาเงินใบละสิบบาทพับใส่ลงในกล่อง เสร็จแล้วก็ครอบฝาปิดกล่องเอาไว้ ท่านเล่าว่าได้นำกล่องใบนี้ไปให้อาจารย์ทวีโดยบอกว่า อยากทดสอบพลังของจิตว่าแรงกว่าเครื่องเอกซเรย์หรือไม่ อาจารย์ทวี มองลอดแว่นแล้วบอกว่าเรื่องนี้ไม่ต้องถึงท่านก็ได้ ให้หูทิพย์ดูก็ได้ หูทิพย์ในที่นี้คือ ด.ช.โสตรทิพย์ ทิวแก้ว บุตรชายของท่านที่พิการแต่กำเนิด กล่าวคือหูทิพย์เป็นเด็กที่ไม่มีรูหู ซึ่งตามปกติแล้วคนที่ไม่มีรูหูมักจะเป็นใบ้ แต่อาจารย์ทวี ท่านได้ใช้พลังจิตรักษาและสอนภาษาตั้งแต่เล็กๆ จนหูทิพย์ สามารถพูดได้ ฟังได้และเรียนหนังสือได้ โดยอาศัยการดูปากและเสียงที่มากระทบบริเวณแก้ม ท่านเล่าว่าขณะนั้น ด.ช.โสตรทิพย์ มีอายุได้สักประมาณสิบกว่าขวบและกำลังวิ่งเล่นอยู่ อาจารย์ทวีได้เรียกให้เขามานั่งดูของในกล่อง ด.ช.โสตรทิพย์นั่งหลับตาดูสักพักจึงลืมตาแล้วบอกว่า แบงค์ พ่อ แบงค์ อาจารย์ทวีถามต่อว่า ใบละเท่าไร ด.ช.โสตรทิพย์นั่งหลับตาอีกแล้วบอกว่า แบงค์สิบพ่อ และเมื่ออาจารย์ทวี ถามต่อว่ามีเลขอะไรบ้าง ด.ช.โสตรทิพย์ก็บอกเลขออกมา เมื่อนายแพทย์สมพนธ์ท่านได้เปิดฝากล่องและดูเบอร์ของธนบัตร ท่านพบว่าตัวเลขตรงกันแต่มีสลับที่กันอยู่บ้าง แต่ท่านว่าเพียงเท่านี้ก็สร้างความมหัศจรรย์ใจให้กับตัวท่านแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้ท่านมีความเชื่อว่า พลังจิตมีความมหัศจรรย์จริงๆ และไม่มีข้อขีดขั้นของอายุผู้ปฏิบัติ จะว่าไปแล้วเรื่องราวของคุณวิเศษและความสามารถพิเศษในเรื่องพลังจิตของอาจารย์ทวี ทิวแก้ว และบุตรชายคือ ด.ช.โสตรทิพย์ ทิวแก้ว ยังมีอีกมากมาย ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เกิดขึ้นต่อหน้าบุคคลหลายๆ ท่าน ซึ่งบุคคลต่างๆ ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ก็เป็นเสมือนพยานบุคคล ที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญยืนยันในเรื่องเหล่านี้ ความมหัศจรรย์ของพลังจิตที่เกิดขึ้น หมายรวมถึง การทำนายทายทัก การวิเคราะห์โรค การติดต่อสื่อสารกับสิ่งเร้นลับ รวมไปถึงการติดต่อกับญาณบารมีของพระเกจิอาจารย์ที่ได้ล่วงลับไปแล้วอย่างหลวงปู่ทวด อาจารย์ทวี ในสมัยนั้นท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย มีทั้งบรรดาพ่อค้าประชาชนทั่วไปและรวมไปถึงข้าราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านได้ให้ความเคารพนับถือถวายตัวเป็นลูกศิษย์ 
อาจารย์จิตร บัวบุศย์ อดีตอาจารย์วิทยาลัยเพาะช่าง ก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของอาจารย์ทวี ทิวแก้ว เช่นเดียวกัน ครั้งนั้นอาจารย์จิตร ต้องการจะหาเงินเพื่อสร้างวัดวังรี จ.นครนายก และวัดสุทธาวาส จ.ฉะเชิงเทรา โดยท่านคิดว่าจะสร้างพระหลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) แต่ช่างปั้นก็ไม่รู้ว่าจะปั้นอย่างไร เพราะไม่มีรูปของหลวงปู่ทวดเป็นแบบและก็ไม่เคยมีใครได้เห็นหลวงปู่ทวดมาก่อน ด้วยเหตุนี้ทำให้อาจารย์จิตร จึงต้องให้อาจารย์ทวี ทิวแก้ว มาเป็นผู้ชี้ทางสว่าง วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๐๕ ท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้ว ได้จัดพิธีขึ้นที่อาศรมชีปะขาว สิ่งมหัศจรรย์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออาจารย์ทวี ท่านได้นำอาจารย์จิตรเข้ามาร่วมในพิธี อาจารย์จิตรได้บรรยายความรู้สึกขณะนั้นว่า ร่างกายร้อนฉ่า ความร้อนนั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวไปที่ต้นแขน ไปที่ปลายมือ และวูบวาบไปที่มือ ไปประจวบรวมกันที่หัวแม่มือ จนอาจารย์จิตรต้องยกนิ้วมือขึ้นมอง ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในชีวิตก็ปรากฏขึ้น เมื่อนิ้วหัวแม่มือของอาจารย์จิตรที่บริเวณเล็บนั้น คล้ายกับเป็นแสงสว่างวูบขึ้นแวววาว จากนั้นก็ค่อยๆ หรี่ลงๆ และปรากฏเป็นภาพรางๆ ที่ค่อยๆ ชัดขึ้นที่ละน้อย กลายเป็นภาพของหลวงปู่ทวด ซึ่งปรากฏเห็นอย่างชัดเจน ไปจนถึงพระอุระของท่าน ภาพที่เกิดขึ้นบนเล็บของอาจารย์จิตร บัวบุศย์นั้นชัดเจน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็มีหลายคนอยู่ร่วมเหตุการณ์ สามารถยืนยันได้ ซึ่งตัวอาจารย์จิตรเอง ท่านก็ได้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า นับเป็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ในพิธีอัญเชิญรูปหลวงปู่ทวดให้มาปรากฏบนนิ้วมือของอาจารย์จิตร บัวบุศย์ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแบบในการสร้างพระรูปหลวงปู่ทวดจนเป็นที่สำเร็จ โดยครั้งแรกเป็นการสร้างพระเนื้อว่านมงคล ๑๐๘ ชนิด เมื่อมีการสร้างเสร็จแล้วได้นำมาแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ทั้งหลายได้บูชาและหมดไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอเนื่องจากลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้ว ยังคงมีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนเมื่อได้รับไปบูชาแล้วต่างก็มีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาดภยันตรายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวอันนี้อยากจะมีไว้บูชากันบ้าง  ด้วยเหตุนี้อาจารย์ทวี ท่านจึงได้สร้างเหรียญหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เป็นเหรียญทรงกลมขึ้นอีกครั้งในปี ๒๕๑๒ เพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ของท่านเช่นเคย แต่ในครั้งนี้อาจารย์ทวี ท่านได้แบ่งเหรียญรุ่นนี้ส่วนหนึ่งเก็บไว้ในหีบเพื่อบูชาในพิธีต่างๆ ของท่าน ว่ากันว่าเหรียญที่ท่านสร้างแจกในครั้งนั้นก็สร้างปาฏิหาริย์ต่างๆ ไว้จนไม่สามารถบรรยายได้หมด และเราอาจจะพบเห็นได้ในคอของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคน เพราะบางท่านก็มีช่วงอายุทันเหตุการณ์ในครั้งนั้น ประกอบกับว่าเป็นที่รับรู้ของลูกศิษย์ว่า อาจารย์ทวี ท่านมีญาณสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ดังนั้นคุณวิเศษของเหรียญรุ่นนี้ผมคงไม่ต้องมานั่งอธิบายความครับ เยี่ยมจริงๆ หลังจากที่อาจารย์ทวี ทิวแก้วได้ถึงแก่กรรมแล้ว ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถประกอบพิธีอัญเชิญหลวงปู่ทวดเช่นนี้ได้อีกเลย วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยไป ถึงจะไม่มีอาจารย์ทวีแล้ว แต่บรรดาลูกศิษย์ก็ยังคงไปมาหาสู่กราบไหว้ที่อาศรมชีปะขาวกันอย่างสม่ำเสมอ ในระหว่างที่บรรดาลูกศิษย์ช่วยกันจัดเก็บข้าวของในอาศรมชีปะขาว ก็ได้พบหีบเก่าอยู่ใบหนึ่ง จึงตัดสินใจเปิดดู โดยมีท่านพลตรีประจักษ์ ธูปเทียนรัตน์ หนึ่งในบรรดาลูกศิษย์เป็นหัวหน้าประจักษ์พยานในการเปิดดูครั้งนี้ สิ่งที่ได้พบในหีบใบนั้นก็คือเหรียญหลวงปู่ทวด ที่อาจารย์ทวีได้สร้างขึ้นในปี ๒๕๑๒ จำนวนหนึ่ง และจดหมายของอาจารย์ทวี ที่เขียนใส่ไว้ เนื้อหาและใจความในจดหมายเสมือนหนึ่งว่า ท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้ว จะล่วงรู้ถึงอนาคตว่าจะต้องมีลูกศิษย์ของท่านมาพบกรุเหรียญหลวงปู่ทวดในหีบใบนี้ โดยท่านเขียนไว้ว่า ขอให้สานต่อการสร้างวัด ๒ แห่งที่ท่านสร้างไว้ในอดีตให้แล้วเสร็จ คือ วัดวังรี จ.นครนายก และวัดสุทธาวาส จ.ฉะเชิงเทรา และเหรียญดังกล่าวให้รวบรวมแจกจ่ายแก่ผู้ที่ศรัทธาไว้สักการบูชา ด้วยบารมีพุทธคุณของหลวงปู่ทวด จงโปรดคุ้มครองแก่ลูกหลานทีมีความเลื่อมใสให้แคล้วคลาดปลอดภัย...
เหรียญสมเด็จหลวงปู่ทวด อาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว จ.กาญจนบุรี จัดสร้างปี 2512 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 ซ.ม.
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขานครปฐม ออมทรัพย์

หน้าที่เข้าชม1,705,418 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,228,161 ครั้ง
เปิดร้าน22 มี.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท4 ก.ย. 2568

081-6619989 ,083-9566942
พูดคุย-สอบถาม