หลวงพ่อเขียน มีนามเดิมว่า เขียน ทองคำ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2473 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเมีย ณ บ้านกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ (ขณะนั้นเป็นอำเภอมะขาม) จ.จันทบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม หาของป่าและสมุนไพร ดังนั้น ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาพืชสมุนไพรและของป่าบนเขาคิชฌกูฏ จนมีความชำนิชำนาญ ท่านเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดกระทิง จ.จันทบุรี จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดกระทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2494 โดยมีพระครูนิเทศคณานุสิฏฐ์ วัดหนองอ้อ ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูพุทธบทบริบาล วัดพลวง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ขนฺธสโร” ในปีเดียวกัน ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี
พ่อท่านเขียน ขนฺธสโร มีความชำนิชำนาญด้านนวกรรมจิตตภาวนาเหมือนการหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ดังเช่นครั้งหนึ่งได้เคยทำนายว่าจะเกิดเหตุน้ำป่าท่วมเมืองจันท์ฯ โดยท่านได้กล่าวทำนายก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำป่าท่วมจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี พ.ศ.2542 ในเขตพื้นที่กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ, อ.มะขาม และ อ.เมืองจันทบุรี
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ชำนาญด้านพื้นที่ตามเชิงเขาสูง สามารถหยั่งรู้ดินฟ้าได้ล่วงหน้า ประกอบกับการเดินเท้าขึ้นเขาคิชฌกูฏได้รวดเร็วจนชาวบ้านเดินตามไม่ทัน หลวงพ่อเขียนเดินได้รวดเร็วคล้ายกับการหายตัว แม้วัยของท่านจะล่วงมาถึงกว่า 70 ปีแล้วก็ตาม
งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
หลวงพ่อเขียน ขนฺธสโร เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ซึ่งอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ขึ้นเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่า 60 วัน ระหว่างปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคมหรือเดือนเมษายน ของทุกๆ ปี ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่า ใครเดินทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ) เพื่อนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาคิชฌกูฏ จะได้รับมหากุศล ประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง โดยจะมีพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน พีธีปิดป่า (พิธีปิดตาสัตว์ป่า ป้องกันภัยจากสัตว์ร้าย) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พุทธศาสนิกชน
ลายเส้นบนรอยพระพุทธบาทพลวง
การเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏนั้นมีมานานกว่า 153 ปีแล้ว โดยมีผู้พบรอยพระพุทธบาทและก้อนหินรูปบาตรยักษ์ (ก้อนหินใหญ่รูปทรงกลมคล้ายบาตรพระขนาดยักษ์) ตั้งบนหน้าผาสูงยอดเขาพลวงอย่างน่าอัศจรรย์ ในราว พ.ศ.2397 ต่อมาในปี พ.ศ.2515 พ่อท่านเขียนได้บุกเบิกทางขึ้น และนำรถยนต์ขึ้นเขาเป็นครั้งแรก และค่อยๆ พัฒนาเส้นทางขึ้นยอดเขาให้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน รอยพระพุทธบาทแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,050 เมตร นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปรากฏอยู่บนก้อนหินใหญ่ โดยใกล้กันนั้นมี หินรูปพระบาทหรือหินรูปบาตร ที่เป็นหินก้อนใหญ่มากตั้งตระหง่านอยู่ลักษณะเหมือนหินเรือใบที่เกาะสิมิลัน จ.พังงา
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงกับรอยพระพุทธบาท ยังมีประติมากรรมหินรูปร่างแปลกตาที่สอดคล้องกับตำนานทางพระพุทธศาสนา อาทิ หินพระนอน ลานแข่งรถพระอินทร์ ถ้ำฤาษี หินรูปร่างคล้ายเต่าและช้างใหญ่ รวมถึงรอยเท้าพญามารปรากฏให้เห็นด้วย
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ทางราชการจังหวัดจันทบุรีจะบรรจุให้งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทฯ เป็นแผนการท่องเที่ยวก็ตาม แต่ชาวพุทธควรถือเป็นการขึ้นเขาบำเพ็ญศีลเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่า เมื่อได้เดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏเพื่อสักการะสวดมนต์บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะได้รับมหากุศล ประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ความโชคดีทุกคน ทุกครั้งที่หน่วยงานราชการ องค์กรการกุศล โรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ หรือประชาชนทั่วไป เข้ามาขอรับความอนุเคราะห์จากพ่อท่านเขียน ท่านไม่เคยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด ชาวบ้านญาติโยมจึงได้ขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ”
เหรียญหล่อโบราณ รุ่นฟ้าผ่า เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จ.จันทบุรี เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์มากมาย ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านห้อยเหรียญหลวงพ่อเขียนไปโดนฟ้าผ่าแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย จึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า "รุ่นฟ้าผ่า"
โทร.081-661-9989
Email:kobsub@hotmail.com
LINE ID:kobsub456