ตำราพระยันต์โลกธาตุครอบจักรวาล พระยันต์นี้มีพุทธคุณมากสุดจะพรรณนา ซึ่งเป็นยันต์ขลังที่ หลวงพ่อรักษ์ ท่านผูกอักขระยันต์ขึ้นมาและนำมาเจิมจารเสก เป็นกำลังใจแก่เหล่าศิษย์ จนเป็นที่ประจักษ์ในคุณวิเศษ ซึ่งมีความมงคลโดยยิ่ง
ปฐมอักขระ ชุดที่ ๑ “ลงพระยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์” คือ นะ โม พุท ธา ยะ
สิทธิการิยะ ดำเนินความตามโบราณคำภีร์แห่งปฐมกัปป์ ว่า ในภัทรกัปนี้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์ มีพระนามว่า
องค์ที่ ๑ พระกุกกุสันโธ
องค์ที่ ๒ พระโกนาคมน์
องค์ที่ ๓ พระกัสสปะ
องค์ที่ ๔ พระสมณโคดม
องค์ที่ ๕ พระศรีอาริยเมตไตย
พระอักขระวิเศษนี้ บังเกิดขึ้นเองโดยมิมีผู้ใดตบแต่งขึ้นเป็นสิ่งที่เรืองอานุภาพสูงสุดในบรรดาเวทย์มนตร์คาถาที่จะมุ่งภาวนาให้เกิดอิทธิปาฏิหาริย์ในพุทธศาสนา จำเป็นจะต้องภาวนายึดมั่นในพระอักขระทั้ง ๕ นี้ เพราะถือกันว่าเมื่อได้ ภาวนาทั้ง ๕ พระอักขระนี้ก็เปรียบเสมือนหนึ่งได้พบพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์
พระอักขระทั้ง ๕ นี้ ยังจัดเป็นเวทย์มนตร์คาถาที่สำคัญสูงสุด และยังจัดเป็น “ แม่ธาตุใหญ่” อีกด้วย เพราะเหตุที่บุคคลเราจะดำเนินชีวิตอยู่ได้นั้น ก็เพราะเหตุที่มีธาตุเป็นปกติสมบูรณ์อยู่ ถ้าหากธาตุเกิดอาการวิปริตขึ้นแล้วมักจะเกิด เจ็บไข้ได้ป่วย หนักเข้าก็ถึงกับสูญเสียชีวิตไป การจะประกอบวิทยาคมให้
บังเกิดอิทธิปาฏิหาริย์สมใจนั้นสำคัญอยู่ที่ธาตุ โดยจำแนกเอาไว้ ดังนี้
๑.นะ ได้แก่ อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) มีกำลัง ๑๒
๒.โม ได้แก่ ปถวีธาตุ (ธาตุดิน) มีกำลัง ๒๑
๒.พุท ได้แก่ เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) มีกำลัง ๖
๓.ธา ได้แก่ วาโยธาตุ (ธาตุลม) มีกำลัง ๗
๔.ยะ ได้แก่ อากาศธาตุ มีกำลัง ๑๐
ในตำราโบราณจารย์กล่าวว่า รวมกำลังธาตุทั้งหมดได้ 56 เท่ากับเป็นกำลัง พระพุทธคุณ เป็นแม่ธาตุใหญ่ในทางวิทยาคมนับถือว่าอักขระหัวใจ “พระเจ้าห้าพระองค์” มีคุณวิเศษครอบคลุมครบทุกด้าน ที่สำคัญบางตำราในสายวัดประดู่โรงธรรมเรียกว่า พระยันต์ภัทรกัป หรือบางตำราเรียก ยันต์นะหน้าทอง ครูบาอาจารย์ผู้ปรมาจารย์ อาทิ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นต้น ใช้เสก ลงเจิม เป็นยอดแห่งเมตตามหานิยม
มหาอักขระชุดที่ ๒ (ด้านขวา) ลงพระคาถา “หัวใจธาตุ ๔ ” คือ “นะ มะ พะ ทะ” สิทธิการิยะตำราครูโบราณจารย์กล่าวว่า พระคาถาหัวใจบทนี้เป็นสิ่งสำคัญ มีอิทธิคุณวิเศษมาก อันประกอบด้วย
๑.นะ คือ ธาตุน้ำ หรือ อาโปธาตุ อิทธิฤทธิ์ยันต์ใช้ในทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม
๒.มะ คือ ธาตุดิน หรือ ปถวีธาตุ อิทธิฤทธิ์ยันต์ใช้ในทางขับไล่ภูตผีปีศาจ
๓.พะ คือ ธาตุไฟ หรือ เตโชธาตุ อิทธิฤทธิ์ยันต์ใช้ในทางคงกระพันชาตรี
๔.ทะ คือ ธาตุลม หรือ วาโยธาตุ อิทธิฤทธิ์ยันต์ใช้ในทางมหากำบัง ล่องหน สะกดจังงัง
ซึ่งคาถาบทนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากในการสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางต่าง ๆ จะต้องมีการตั้งธาตุและปลุกธาตุ เพื่อให้ของสิ่งนั้นเกิดพลังมหิทธานุภาพ โดยการลงอักขระเลขยันต์นั้นจะต้องตั้งด้วยแม่ธาตุใหญ่ คือ นะ โม พุท ธา ยะ ในเบื้องต้น และตามด้วย “หัวใจธาตุ ๔ คือ นะ มะ พะทะ” นี้เป็นประการสำคัญ เพื่อให้บังเกิดความสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านแห่งวัตถุมงคลรุ่นนี้
มหาอักขระชุดที่ ๓ (ด้านซ้าย) ลงพระคาถา “หัวใจธาตุพระกรณี” คือ “จะ ภะ กะ สะ” ตำราครูโบราณจารย์กล่าวว่า พระคาถาหัวใจบทนี้ใช้หนุนเสริมธาตุทั้ง ๔ ให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น อันปรากฏในคัมภีร์ ดังว่า
บทที่ ๑ “จะ เช ทุชชะนัสสัคคัง” แปลว่า ให้พึงเว้นจากการคบคนชั่ว ถอดออกมาเป็นตัวอักขระว่า “จะ"
บทที่ ๒ “ภะ เช สาธุสะมาคะตัง” แปลว่า ให้พึงคบหาสมาคมกับคนดี ถอดออกมาเป็นตัวอักขระว่า “ภะ"
บทที่ ๓ “กะ เร ปุญญะมะโหรัตตัง” แปลว่า ให้พึงทำแต่ความดีทั้งกลางวันและกลางคืน ถอดออกมาเป็นตัวอักขระว่า “กะ"
บทที่ ๔ “สะ ย่อมาจาก สรนิจฺจมนิจฺจัง แปลว่า ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ ถอดออกมาเป็นตัวอักขระว่า "สะ" รวมเป็นพระคาถาหัวใจธาตุพระพุทธเจ้า หรือที่เรียกว่า “หัวใจธาตุพระกรณี” คือ “จะ ภะ กะ สะ” อักขระสี่คำนี้ถ้าใครได้เรียนให้แตกฉานแล้ว ท่องกลับไปกลับมา ๙ คาบ ๑๖ คาบ ๑๐๘ คาบ ในตำรากล่าวถึงอิทธิฤทธิ์ว่า เป็นยอดแห่งเมตตามหาเสน่ห์ ป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย์มนต์ดำ ป้องกันกระทำ สามารถป้องกันไฟ อธิษฐานท่องภาวนาเกิดสมาธิ สามารถล่องหน กำบัง หายตัวได้ เป็นยอดแห่งมนต์วิเศษแห่งยุค
มหาอักขระ ชุดที่ ๔ (ด้านบน) ลงพระคาถา “หัวใจแก้ว ๔ ดวง” คือ “นะ มะ อะ อุ” หนึ่งในยอดแห่งวิชาธาตุกรรมฐาน ว่าด้วยการหนุนธาตุ ในตำราครูโบราณจารย์กล่าวว่า พระคาถาหัวใจบทนี้เป็นยอดแห่งคุณวิเศษ อันประกอบด้วย
บทที่ ๑ นะ คือ แก้วมณีโชติ เมื่อตั้งอาโปธาตุ ให้เอาแก้วมณีโชติ หนุน
บทที่ ๒ มะ คือ แก้วไพฑูรย์ เมื่อตั้งปถวีธาตุ ให้เอาแก้วไพฑูรย์ หนุน
บทที่ ๓ อะ คือ แก้ววิเชียร เมื่อตั้งเตโชธาตุ ให้เอาแก้ววิเชียร หนุน
บทที่ ๔ อุ คือ แก้วปัทมราช เมื่อตั้งวาโยธาตุ ให้เอาแก้วปัทมราช หนุน
นอกจากนี้ ในตำรากล่าวถึงอิทธิ์ฤทธิ์คุณวิเศษว่า เป็นการหนุนชีวิต หนุนดวง ส่งเสริมบุญบารมี ให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล มีอานุภาพพุทธคุณมากในด้านส่งเสริม ค้ำจุนดวงชะตาชีวิต ไม่ให้ตกต่ำ มีแต่เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย อีกด้วยเป็นประการหนึ่ง
มหาอักขระ ชุดที่ ๔ (ด้านล่าง) ลงพระคาถา “หัวใจยอดพระนิพพาน” คือ
“พุท โธ อะ ระ หัง” คาถาบทนี้เป็นยอดแห่งพระคาถา “หัวใจพระนิพพาน” เปรียบเสมือนเป็นพระคาถาดับทุกข์ทั้งปวง ดับโศก ดับโรค ดับภัยอันตรายทั้งปวง ให้พินาศหายไป ด้วยอำนาจบารมีแห่งพุทธคุณชั้นสูง
พระยันต์อุณาโลม ยอดแห่งความสำเร็จทั้งปวง หมายถึง ปัญญาความรู้แจ้งเป็นที่สุดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แทนด้วยสัญลักษณ์ของพระเกตุเปลวเพลิง เป็นยอดแห่งยันต์ที่มีคุณวิเศษในด้านความสำเร็จทั้งปวง โบราณาจารย์กล่าวว่า หากจะทำการลงยันต์ใดๆ ก็ตาม หากมียันต์อุณาโลมนี้ เขียนลงไปด้วยจะเกิดผลสัมฤทธิ์แก่วัตถุมงคลรุ่นนั้นเป็นอย่างยิ่ง แม้ผู้ใดที่มีวัตถุมงคลรุ่นนี้ อธิษฐานทำการสิ่งใด ก็จะสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ ด้วยอำนาจแห่งบารมี “อุณาโลม" ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สุดแห่งความเป็นมงคล “อุณาโลม ๙ ขยัก” “คาถาเรียกสูตรว่า อุณาโลมาปะนะชานะยะเต ที่สำคัญหมวดยันต์ ๙ ขยักด้วยคาถา “นวะหรคุณ” คือ “อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ” เป็นพระคาถาหัวใจพุทธคุณ ๙ ห้อง หนึ่งใน “พระคาถารัตนมาลา” มนต์คาถาศักดิ์ศักดิ์ประจำสำนักวัดประดู่โรงธรรม เมืองอยุธยา มีพุทธคุณวิเศษมาก ครอบจักวาล
พระคาถามหาบารมี ๓๐ ทัศ ยอดแห่งพระคาถาศักดิ์สิทธิ์แห่งยุค ดังพระคาถาว่า อิติปาระมิตาติงสา แปลว่า ขออำนาจแห่งพระบารมี ๓๐ทัศ
อิติสัพพัญญูมาคะตา แปลว่า ขออำนาจแห่งบารมีพระสัพพัญญู
อิติโพธิมนุปปัตโต แปลว่า ขออำนาจแห่งพระโพธิญาณ
อิติปิโสจะเตนะโม แปลว่า ด้วยอำนาจแห่งคำขอทั้งหมดนี้ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
กล่าวถึง “ตำรับวิชาบารมี ๓๐ ทัศ” เป็นตำรับของพระปรมาจารย์ยุคเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา จารึกไว้ว่า พระเวทวิชาบารมี ๓๐ ทัศ หรือพระบารมี ๓๐ ทัศ เป็นพระบารมีที่พระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ ได้ทรงบำเพ็ญบารมีมาจนกระทั่งได้ตรัสรู้เป็น “องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ซึ่งประกอบไปด้วย
ทานบารมี ๓ ขั้น ศีลบารมี ๓ ขั้น เนกขัมมะบารมี ๓ ขั้น ปัญญาบารมี ๓ ขั้น วิริยะบารมี ๓ ขั้น ขันติบารมี ๓ ขั้น สัจจะบารมี ๓ ขั้น อธิษฐานบารมี ๓ ขั้น เมตตาบารมี ๓ ขั้น อุเบกขาบารมี ๓ ขั้น รวมกันเป็น “พระบารมี ๓๐ ทัศ”
นอกจากนี้ในตำราว่าเป็นพระคาถาที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วทรงท่องอาราธนาก่อนออกชนช้างกับมหาอุปราชาฯ จนทำให้พระองค์ทรงมีชัยต่อพระมหาอุปราชา ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ ซึ่งพระคาถานี้คนโบราณท่านตีราคาไว้เท่ากับเมืองๆ หนึ่ง ซึ่งต่อมาสรรพวิชาคาอาคมเหล่านี้ได้มีการสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน จนกระทั่งปัจจุบันตำราพระคาถานี้ได้ตกทอดมาถึง หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองอยุธยา ซึ่งพระเดชพระคุณศึกษามาอย่างชำนาญแตกฉาน ตลอดถึงบำเพ็ญบุญบารมี สร้างกุศล สร้างบารมี แผ่ไปทั่วสารทิศ จนเป็นที่ประจักษ์ของสาธุชน จนได้รับขนานนามจากพุทธศาสนิกชนทั้งมวลว่า “เทพเจ้ามหาบารมี ๓๐ ทัศ”
ในตำรากล่าวสรรเสริญคุณวิเศษของพระคาถานี้ไว้ว่า หากบุคคลใดท่องอาราธนา หรือนำวัตถุมงคลที่ลงพระเวท “พระคาถามหาบารมี ๓๐ ทัศ” นี้ จะบังเกิดความเป็นมหามงคล เป็นต้นว่า
๑.เป็นเลิศทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ติดต่อเจรจาด้านการค้าขายหรือธุรกิจราบรื่น การงานสะดวกสบาย
๒.เป็นมหาครอบจักรวาล ด้าน ปิด ปัด กัน แก้ ขับไล่เสนียดจัญไร อาถรรพณ์ทั้งปวง ศัตรูเห็นหน้าเราบังเกิดความครั่นคร้าม สรรพสัตว์ทั้งหลายตลอดจนภูตผีปีศาจอยู่มิได้หลบหนีไปสิ้นแล
๓.แก้เคราะห์กรรม สะเดาะเคราะห์ ป้องกันเภทภัย-ภยันตรายที่เกิดจากดวงดาวราศีพระราหู หรือความเชื่อถือเรื่องเบญจเพส หรือ แก้ปีชง เป็นต้น
๔.เป็นมหากำบังแคล้วคลาด กันภัยทั้งปวง จากศัตราวุธทั้งหลาย คงกระพันชาตรี รวมไปถึงป้องกันภัยอันตรายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จากหนักกลายเป็นเบา จากร้ายกลายเป็นดี โบราณเรียกว่า อาวุธกลับ
๕.เปิดทางหรือเบิกทางการทำมาหากิน เร่งผลด้านเรียกโชค เรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมา ไม่ติดไม่ขัด การงานธุรกิจหรือประกอบอาชีพใดๆ ก็เจริญรุ่งเรือง ไม่มีตกอับ หรือขัดสน มั่งมีทรัพย์ ไม่อดไม่อยาก
๖.ส่งเสริมเพิ่มพูน ค้ำจุน หนุนดวง สืบชะตาชีวิต เป็นอำนาจวาสนาบารมี เพิ่ม ตบะเดชะ มีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องใส ปราศจากเครื่องมลทินเศร้าหมอง ดีนักแล
ลงยันต์ “เฑาะว์ มหาพรหม” ตำรับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ในตำรา พระยันต์เฑาะว์ ขัดสมาธิเพชร” ของปรมาจารย์ยุคเก่าที่หลวงพ่อรักษ์ ท่านศึกษารับสืบทอดมาในสายวิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท มาจาก “หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม” ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชา ได้ศึกษามาจากศิษย์หลวงปู่ศุข คือ หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.อยุธยา ยอดเกจิอาจารย์สายอยุธยาในอดีต กล่าวว่า “ยันต์เฑาะว์” ตัวนี้มีอำนาจพุทธคุณขลังยิ่งนัก ใช้ทางด้านป้องกันอันตราย แคล้วคลาด ดีนัก ตลอดถึงทางด้านมหาอำนาจ นั้นมีคุณวิเศษมากนักแล เหมาะสำหรับนำมาลงยันต์ประทับหลังวัตถุมงคล จะมีพุทธคุณโดดเด่นสูงยิ่งนัก
ที่อรรถาธิบายพรรณนามานี้เป็นอำนาจพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บารมีความศักดิ์สิทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ในตำราพระเวทย์คาถาได้กล่าวไว้ ซึ่งหลวงพ่อรักษ์ นับว่าเป็นพระเถราจารย์แห่งยุคที่ได้รับสืบทอดตำรับตำราสืบสายวิชาอาคมมาจากยอดพระเกจิคณาจารย์ทรงวิทยาคมขลังแห่งยุคมากมายหลายรูปของเมืองไทย ที่ได้ศึกษาและรวบรวมวิชาอาคมทั้งหมดนี้ไว้เพื่อนำมาสงเคราะห์ช่วยเหลือ ขจัดปัดเป่า บรรเทาทุกข์ เป็นที่พึ่งของศรัทธาสาธุชนทั่วไปทั้งในประเทศ และต่างประเทศจำนวนมาก
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com