รูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรี

รูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรี
รูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรีรูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรี
รหัสสินค้า SKU-06146
หมวดหมู่ หลายพระคณาจารย์
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 15 ธ.ค. 2567
อัพเดทล่าสุด 18 พ.ค. 2568
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
หลวงพ่อทัย เดิมชื่อ พริกไทย เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๘ บ้านเดิมอยู่บ้านทับใต้ ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหิน (ห้วยมงคลในปัจจุบัน) หลวงพ่อเป็นพี่ชายของหลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยมงคล เจ้าอาวาสองค์แรกผู้สร้างวัด ในวัยหนุ่มหลวงพ่อได้รับราชการเป็นตำรวจ เมื่อเข้าสู่อายุครบบวชก็ได้บวชกับหลวงพ่อนาควัดหัวหิน ที่วัดหัวหิน สมัยก่อนบ้านเมืองยังไม่ใหญ่โต ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองวัดในหัวหินมีแค่ในหัวหินที่เดียว เข้าใจว่าการรับราชการสมัยก่อนใครพออ่านออกเขียนได้ก็ให้รับราชการ เรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนไม่ได้เป็นระบบเหมือนในสมัยนี้ จึงไม่ได้ทำให้เกิดความจูงใจมากนัก หลวงพ่อจึงบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อนาคที่วัดหัวหินอยู่นานหลายปี
ในราวๆ พ.ศ. ๒๔๐๐ หมู่บ้านบางควายเริ่มมีการตั้งถิ่นฐานกันอยู่บ้างอย่างเบาบาง ด้วยเป็นเส้นทางการค้าขายระหว่างเพชรบุรี-หัวหิน-ปราณฯ จุดที่ตั้งของบ้านบางควายมีน้ำจืด และเป็นช่องเขาที่ลงมาจากป่าทิศตะวันตกด้วย จึงเป็นจุดนัดพบสำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางสายนี้ จนราวๆ พ.ศ. ๒๔๕๐ หมู่บ้านเริ่มมีความหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านมักนิยมไปทำบุญกันแต่วัดที่ใกล้เคียง ในเวลานั้นมีแค่วัดโตนดหลวงกับวัดหัวหิน พอถึงวันพระใหญ่ก็จะมีขบวนเกวียนชาวบ้านไปทำบุญกันที่วัดหัวหิน เมื่อนานวันเข้าชาวบ้านจึงได้อาราธนากับหลวงพ่อนาคว่า ให้ส่งพระจากวัดหัวหินมาอยู่ที่หมู่บ้านบางควายบ้าง จะได้อนุเคราห์ญาติโยมในการทำบุญ ในเบื้องต้นหลวงพ่อนาคได้ส่งหลวงพ่อเล็กกับพระอีก ๓-๔ รูปมาอยู่เป็นชุดแรก และในราวปี ๒๔๖๐ จึงได้ส่งหลวงพ่อทัยให้มาอยู่ที่วัดนี้ เดิมหลวงพ่อเล็กตั้งชื่อวัดว่า "วัดบางควาย"
หลวงพ่อเล็กมาอยู่ที่วัดบางควายไม่นานก็มรณะภาพ หลวงพ่อทัยจึงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน จริงๆ วัดก็ยังเล็กมากนักไม่มีอะไร แต่ในราว ๒๔๗๐ ก็ได้จัดงานผูกพัทธสีมาอุโบสถหลังแรก เป็นอุโบสถไม้สักทั้งหลัง อยู่ติดทะเลบางควายมานานกว่า ๘๐ ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อจนบัดนี้ว่าจะยังไม่ล่มสลาย เพิ่งจะได้รับการบูรณะเมื่อปี ๒๕๕๑-๕๒ นี่เอง ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสนใจกันเลย แล้วชาวประมงก็มาอาศัยใช้งานอยู่เป็นสิบๆ ปี แต่ก็ไม่ผุพัง แม้แต่วังมฤคฯ ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็พังไปเกือบครึ่งแล้ว
หลวงพ่อทัยปกครองวัดไทรย้อย เรื่อยมาตั้งแต่ ปี ๒๔๗๐ ถึงปี ๒๕๑๙ ก็มรณภาพสิริอายุ ๘๑ ปี ตำแหน่งสุดท้ายท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเจ้าคณะตำบลชะอำ ท่านชอบให้พระที่มาบวชในพรรษาเรียนหนังสือเพื่อสอบนักธรรมและท่านจะสอนเอง
เรื่องวัตถุมงคลนั้น ท่านไม่ได้ให้คนหมกหมุ่นมากนัก ท่านมีชื่อเสียงจากปลัดขิก ในหนังสือประวัติตอนงานพระราชทานเพลิงของท่านได้ปรากฏว่าท่านเรียนวิชานี้มาจากโยมบ้านสวนกล้วย (ทุกวันนี้ยังสืบไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน) กับที่วัดโคก หลายคนบอกว่าปลัดขิกมักจะวิ่งอยู่ในบาตร ใครจับได้จับเอา มักทำตัวเล็กๆ จิ๋วๆ ทำจากไม้กัลปังหา สีดำ แต่ตัวใหญ่ยาวๆ นั้น โดยมากก็จะเหลากันมาเอง แล้วหลวงพ่อจะลงอักขระให้ ทุกวันนี้ยังมีภาพหลวงพ่อจารปลัดขิกขณะอยู่ในมุ้งด้วย ภาพนี้เทศบาลเมืองชะอำได้นำไปทำปฏิทินแจกชาวบ้านมาหลายปีแล้วไม่พอแจก ยังมีภาพนี้ปรากฏให้ชมอยู่ที่วัดคู่กับภาพในหลวงและสมเด็จฯ มาเยี่ยมวัดไทรย้อย จริงๆแล้วเท่าที่สอบถามสืบความได้ว่าในหลวงเสด็จมาที่วัด ๔ ครั้ง ทั้งมากราบหลวงพ่อทัยและมาเยี่ยมราษฎรด้วย ในระหว่าง ปี ๒๔๙๗-๒๕๑๖ ในครั้งสุดท้ายในหลวงถวายปัจจัยไว้ส่วนหนึ่ง หลวงพ่อทัยท่านก็ได้นำเงินนั้นมาเป็นปัจจัยสร้างฐานอุโบสถหลังปัจจุบัน โบสถ์วัดไทรย้อยหลังปัจจุบันจึงถือว่าเป็นเงินพระราชทานอีกด้วย
เรื่องปลัดขิกนี่จะมีช่างของวัดเหลาอยู่ ๒-๓ ฝีมือ ให้ดูที่หัวยาว ๑ ส่วนและตัวยาว ๓ ส่วน เป็น ๔ ส่วน ตามสูตร นอกนั้นต่างเหลาถือกันมาให้หลวงพ่อลงให้ทั้งนั้น เรื่องประสบการณ์คงไม่พูดมากให้ลองสอบถามกันเอาเอง แต่เด่นที่แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ไม่ค่อยได้ยินเรื่องมหาอุดหยุดลูกปืน มีแต่รถพังยับตายยกคันแต่มีปลัดไม่ตาย ในช่วงหลังปี ๒๕๐๕ มีทหารเรือจากสัตหีบและบางนามาเป็นลูกศิษย์กันมาก บางคนว่าหลวงพ่ออี๋ให้มาหาดู ประมาณว่าหลวงพ่ออี๋บอกยกย่องไว้ก่อนมรณภาพ
ปี ๒๕๐๔ ท่านได้สมณศักดิ์ที่พระครูวชิรคุณารักษ์ จึงได้ทำเหรียญรูปเหมือนท่านครึ่งองค์ จำนวนเหรียญไม่ทราบแน่ชัดว่าเท่าไหร่ แต่ไม่น่าจะเกิน ๒๐๐๐ เหรียญ ท่านก็ไม่ได้แจกมากนัก เหมือนว่าใครขอก็จะให้ เพราะปรากฏที่กุฏิหลังมรณภาพว่ายังมีเหลืออยู่ โดยท่านจะร้อยใส่ไว้ในสายลวดแต่ไม่ถึง 500 องค์ เหรียญของท่านจะมีเนื้อเดียวคือเนื้อทองแดง จะมีผิว ๒ อย่าง คือผิวกะไหล่เงิน กับผิวเดิมไม่มีกะไหล่ และไม่ได้รมดำ ท่านสร้างเหรียญรุ่นนี้รุ่นเดียวแล้วก็ไม่ได้สร้างรุ่นไหนอีก แต่ก็มีพระเนื้อผงว่านและดินเผาอยู่บ้างแต่ไม่มาก แจกคนมาทำบุญ เป็นพระนางพญาบ้าง พระขุนแผนบ้าง นางกวักบ้าง กับรูปถ่ายท่านแจกบ้างเหมือนกัน หลวงพ่อทัยท่านมีชื่อเสียงอยู่แต่ในแถบชะอำ-หัวหิน คนเรือจะรักท่านมาก
ปี ๒๕๑๘ มีลูกศิษย์สร้างวัตถุมงคลพิเศษมาให้ท่านปลุกเสก คือเหรียญรูปหล่อใบสาเกกับเสือมหาอำนาจ ในเวลานี้เสือของหลวพ่อเป็นที่เสาะแสวงหากันมาก เพราะในพื้นที่มีน้อย คนกรุงเทพมาสร้างแล้วไม่ได้แจกคนในพื้นที่ครับ (เครดิตประวัติจากคุณหมูแดงครับ)
รูปถ่าย หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อดีตเจ้าอาวาส เจ้าตำรับปลัดขิก และเสือมหาอำนาจ แถบลุ่มน้ำเค็มเมืองเพชร หนึ่งในพระเถราจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในทางวิปัสสนากรรมฐานและไสยเวทย์วิทยาคมแห่งเมืองเพชรบุรี ว่ากันว่าหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี ยังเคยเอ่ยปากยกย่องวิชาของหลวงพ่อไท ท่านสืบมาโดยตรงจากหลวงปู่นาค วัดหัวหิน องค์อุปัชฌาย์ ทั้งยังเรียนวิชาต่างๆ รวมถึงปลัดขิกและสมุนไพรจากอาจารย์ฆราวาสอีกหลายท่าน ภายหลังยังได้ไปต่อวิชาการทำปลัดขิกเพิ่มเติมจากหลวงปู่สี วัดปากคลองบางครก ลูกศิษย์เอกของหลวงพ่อโสกอีกด้วย
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขานครปฐม ออมทรัพย์

หน้าที่เข้าชม1,711,241 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,233,984 ครั้ง
เปิดร้าน22 มี.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท18 ก.ย. 2568

081-6619989 ,083-9566942
พูดคุย-สอบถาม