หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๙๔ อายุ ๓๕ ปี ณ.วัดนางบวช ตำบลเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรีโดยมีพระอุปัชฌาย์ พระครูแขก, พระกรรมวาจาจารย์ พรสมุห์ทองย้อย และพระอนุสาสนาจารย์ พระอธิการไสว
ฉายาที่ได้รับ เขมโก สังกัด มหานิกาย
เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าช้าวัดบ้านทึง อำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยมีพระมหาทองโสภโณซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในด้านปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม เป็นเสมือนครูบาอาจารย์ที่คอยชี้บอกแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ พระอาจารย์มหาทองได้แปลข้อศีลที่ว่า "การไม่ยินดีรับเงินทองเป็นของๆ ตนหรือให้ผู้อื่นเก็บไว้เพื่อตน" ให้หลวงปู่
สังวาลย์ฟัง ท่านก็เชื่อตามที่พระอาจารย์มหาทองสอน จึงได้ถือปฏิบัตินับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านไม่มีปัจจัยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
พระอาจารย์มหาทองได้กล่าวถึงอุปนิสัยของหลวงปู่สังวาลย์ว่า "เป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นศิษย์ที่ดี เคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ อดทนมีความเพียรสูง" ที่สำคัญที่สุดคือพุทธพจน์ที่พระอาจารย์มหาทองยกขึ้นแปลให้ฟังว่า "สมาทิงภิกขเว ภาเวถะ สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ" แปลความได้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ท่านพึงทำใจให้เป็นสมาธิ เพราะจิตที่เป็นสมาธิ ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง" จากพุทธพจน์บทนี้ท่านถือเป็นเครื่องเตือนสติในการบำเพ็ญเพียรในป่าช้าวัดบ้านทึงนั้นเป็นเวลา ๕ ปีเศษ ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติอันนี้เอง ทำให้ท่านสามารถรู้เห็นตามความเป็นจริง พวกเราทั้งหลายจึงได้มีครูบาอาจารย์ที่มีปัญญาอันเป็นที่สุดอย่างแท้จริงอีกท่านหนึ่ง สิ่งใดที่ท่านอาจารย์แนะนำ ท่านจะพยามดำเนินตามอย่างเคร่งคัด ท่านบอกว่า "ท่านเป็นตาสีตาสาชาวทุ่งชาวนา อีกทั้งด้อยการศึกษา หนังสือสักตัวเดียวก็อ่านไม่ออก เมื่อเป็นเช่นนั้นหากครูบาอาจารย์ผู้มีคุณธรรมเมตตาสอนอย่างไร ท่านจึงพยามทำอย่างนั้นประกอบกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่มีอยู่เปี่ยมล้นในจิตใจ ท่านจึงปฏิบัติตามแนวทางอันบริสุทธิ์ ที่อาจารย์แนะนำอย่างมอบกายถวายชีวิตกันเลยทีเดียว คุณสมบัติพิเศษที่พระอาจารย์มหาทองรับรองว่า การปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อสังวาลย์เห็นผลมากในพรรษาที่ ๓ จิตมีพลังสมาธิสูงมากได้ฌานสูงเกิดอภิญญาคุณ สามารถรู้อดีต อนาคต รู้จิตผู้อื่นได้ ฯลฯ
เมื่อมีผู้ถามว่าหลวงพ่อสังวาลย์ไม่รู้หนังสือ เมื่อมาบวชเรียนปฏิบัติธรรมแล้วทำไมจึงมีความรู้แตกฉาน ท่านจะตอบสั้นๆ ว่า "พระพุทธเจ้าสอนมนุษย์ทุกคนให้เป็นคนฉลาด ไม่ใช่สอนให้คนโง่" ระหว่างปฏิบัติธรรมในป่าช้า ท่านถือธุดงควัตรอย่างสม่ำเสมอ แม้การบิณฑบาตบางครั้งสังขารไม่อำนวย ท่านก็ไม่ยอมขาดในข้อบิณฑบาตเป็นวัตร พยายามอดทนต่อเวทนาที่เกิดขึ้น การปฏิบัติยึดหลักพุทโธและสติปัฏฐาน ๔ ท่านเล่าถึงป่าช้าวัดบ้านทึงว่า "อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านมาก มีต้นไม้ปกคลุมไปทั่ว ยามกลางคืนเงียบสงัด เหมาะแก่การภาวนา ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าช้าผีดิบ" ความน่ากลัวของป่าช้าแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือ ระยะแรกที่ท่านเข้าไปบำเพ็ญภาวนา ท่านได้ประสบเหตุการณ์หลายอย่าง แต่ท่านไม่ทิ้งองค์ภาวนา กลับภาวนาดียิ่งขึ้น นำเอาพระพุทธคุณมาเป็นที่พึ่งที่ระลึก ท่านพูดเสมอว่า "คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีอานุภาพมาก ถ้าเราขาดคุณของพระรัตนตรัยเสียแล้ว เราจะปฏิบัติเพื่อเอามรรคผลมันก็ยาก"
"อาตมามองเห็นคุณของพระพุทธศาสนา ส่วนอื่นๆ อาตมามองเห็นเป็นภัยไปหมด เพราะมันคอยถือว่าชาติ ชรา พยาธิ" "การดำเนินชีวิตในทางธรรมคือ ความดีงามของเรานั่นเอง"
หลวงปู่สังวาลย์อยู่ป่าช้าจนย่างเข้าสู่ปีที่ ๖ จึงออกจากป่าช้าด้วยเหตุที่มีการปรับปรุงบริเวณป่าช้าให้มีความเหมาะสม ท่านจึงย้ายไปสู่วัดทุ่งสามัคคีธรรมอันเป็นบ้านเกิดของท่าน เพื่อโปรดญาติโยมตามที่ได้นิมนต์ไว้ ถึงแม้ท่านจะต้องออกจากป่าช้ามาก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยหรือทอดทิ้งธุระในภาคการปฏิบัติแม้แต่น้อย ท่านจึงพูดเรื่องนี้ว่า "นักปฏิบัติจะทอดทิ้งการปฏิบัติไปไม่ได้ จนกว่าจะหมดลมหายใจ"
การออกเดินธุดงค์ของหลวงปู่สังวาลย์ ไม่บ่อยและไม่ไกลนัก เช่นภาคใต้ ไปถึงชุมพร (แวะพักที่สำนักวัดถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี) ส่วนมากก็ปฏิบัติอยู่กับที่ ท่านจะเดินทางเพื่อไปศึกษาแต่ละสำนัก เขาปฏิบัติกันอย่างไร หลวงปู่เคยเดินทางเพื่อไปศึกษาหลักธรรมที่วัดมหาธาตุ กับท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธฺมุนี (ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระสมัยนั้น) มีผู้ปฏิบัติกันมาก เป็นกรรมฐานที่มีแบบอย่างมาจากพม่าเป็นเวลา 4 เดือน
พระมหาเถระที่หลวงปู่สังวาลย์ถือเสมือนเป็นครูบาอาจารย์ของท่านคือ
1. หลวงปู่พระมหาทอง โสภโณ.
2. หลวงปู่สงฆ์ พรหฺมสโร
3. หลวงปู่บุคดา ถาวโร ซึ่งปฏิบัติธรรมคู่กับหลวงพ่อสงฆ์ที่ถ้ำเขาภูคาในอดีต ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อสังวาลย์ ปัจจุบันละสังขารไปหมดแล้ว
หลวงปู่สังวาลย์ ท่านเป็นพระที่ว่านอนสอนง่าย อาจารย์ท่านใดสอนอย่างไรก็ทำตามได้โดยไม่ติดขัดในกรรมฐานทุกบท เข้าใจในกรรมฐานทุกบท ครั้งหนึ่งขณะท่านนั่งภาวนาอยู่ในวิหารหลังเก่าของวัดทุ่งสามัคคีธรรม มีชายผู้หนึ่งเห็นท่านนั่งภาวนาก็คิดอยากจะทดสอบหรือจะด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ จึงจับตัวท่านหมุนเล่น หมุนเหมือนท่านนั้งบนเก้าอ้หมุน แต่ท่านไม่มีจิตคิดโกรธเลย ท่านกล่าวว่า "ความโกรธเป็นเสมือนเครื่องเสียดแทงสัตว์โลก จิตที่ปราศจากความโกรธเกิดขึ้นกับผู้ใดผู้นั้นย่อมเป็นสุข จะอยู่ที่ใดก็ดีเป็น "สุคโต" อยู่วัดทุ่งสามัคคีธรรมไม่นานท่านก็ออกเดินทางจากวัดทุ่งฯ มุ่งไปทางทิศเหนือถึงจังหวัดชัยนาท ท่านพบเขาสารพัดดี ท่านเดินลัดเลาะตามทางน้ำขึ้นไปสู่ยอดเขา ท่านก็ได้พบรอยพระพุทธบาท ตลอดจนซากอิฐเก่าบนยอดเขานั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นที่สัปปายะ ท่านจึงสร้างวัดเขาสารพัดดีขึ้น ทำทางขึ้นสู่ยอดเขา ปรับปรุงเสนาสนะตลอดจนสร้างหอประชุมสงฆ์เป็นรูปมณฑปสามมุกอันสง่างาม นับเป็นสัญลักษณ์ของวัดเขาสารพัดดีศรีเจริญธรรมมาจนกระทั่งทุกวันนี้
หลวงปู่สังวาลย์มีความเมตตาต่อลูกผู้หญิงเป็นอย่างมาก ท่านมิได้ถือว่าสตรีเพศเป็นเพศศัตรูอันตรายเพศพรหมจรรย์ ท่านกลับเมตตาสงสารเห็นว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส และมีความทุกข์มากกว่าบุรุษเพศ การเข้ามาศึกษาได้อย่างเต็มที่ พยามสอนตามภูมิธรรม ภูมิปัญญาของผู้ที่จะรับ บอกแล้วบอกอีก สอนแล้วสอนอีก ด้วยเมตตาธรรมและขันติธรรมอย่างยิ่ง ท่านถือว่า ผู้หญิงมีอาการครบ 32 หากเป็นผู้มีพระไตรปิฏกงดงามสมบูรณ์แล้วก็สามารถรองรับมรรคผลได้เช่นกัน สามารถทำกาย ใจให้เป็นพระได้เช่นเดียวกันกับเพศชาย ท่านแนะนำให้ลูกหญิงทั้งหลายเอาแบบอย่างคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเต็ม ผู้ทรงอภิญญาเป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนทั่วไป ท่านทำให้ผู้หญิงเกิดกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติยิ่งขึ้น ทั้งบังเกิดความอบอุ่นใจเพราะท่านเป็นพระครูบาอาจารย์ ที่เป็นนักปฏิบัติโดยแท้
หลวงปู่สังวาลย์ เขมโกได้ทุ่มเทกำลังแรง กำลังใจเสมอมา ในอันที่จะดำเนินรอยตามพระพุทธบาทของพระบรมศาสดา การประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของท่านอยู่ในธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดมาตลอด การสั่งสอนศิษย์ของท่าน เมื่อยู่นอกห้องกรรมฐานให้ใช้หลักอาณาปานสติคือ พุทโธ เมื่อเข้าห้องกรรมฐานบ่มอินทรีย์ท่านสอนให้ใช้ หนอ สมควรเป็นปูชนียบุคคล ปฏิปทาภาคปฏิบัติตลอดจนอรรถาธิบายอันละเอียดละออ แต่ง่ายแก่การเข้าใจ บ่งบอกถึงความมีปฏิสัมภิทาญาณอันสมบูรณ์ ธุดงควัตรที่ท่านทำมาจวบจนวัยชราเมื่อถึง พ.ศ. ๒๕๔๐ หลวงปู่สังวาลย์ เริ่มอาพาธด้วยโรคชราและอาพาธหนักเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๗ คณะศิษย์ทั้งบรรพชิตคฤหัสถ์ ได้พยายามดูแลรักษาทั้งที่โรงพยาบาลและที่วัดอย่างเต็มกำลังจนกระทั่งท่านมรณะภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันเพ็ญกลางเดือนหก ตรงกับวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๓ นาฬิกา ๑๕ นาที สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๕๕ พรรษา
ผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี ด้านหลังเป็นธงกฐินกาลมหาทานบารมี ขนาด 27x35 ซ.ม.
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989
LINE ID:kobsub456
Email:kobsub@hotmail.com
หน้าที่เข้าชม | 1,704,873 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,227,616 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 มี.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |