ผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี

ผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี
ผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรีผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี
รหัสสินค้า SKU-06441
หมวดหมู่ ผ้ายันต์
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 4 ก.พ. 2568
อัพเดทล่าสุด 22 พ.ค. 2568
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๙๔ อายุ ๓๕ ปี ณ.วัดนางบวช ตำบลเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรีโดยมีพระอุปัชฌาย์ พระครูแขก, พระกรรมวาจาจารย์ พรสมุห์ทองย้อย และพระอนุสาสนาจารย์ พระอธิการไสว
ฉายาที่ได้รับ เขมโก สังกัด มหานิกาย
เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าช้าวัดบ้านทึง อำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยมีพระมหาทองโสภโณซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในด้านปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม เป็นเสมือนครูบาอาจารย์ที่คอยชี้บอกแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ พระอาจารย์มหาทองได้แปลข้อศีลที่ว่า "การไม่ยินดีรับเงินทองเป็นของๆ ตนหรือให้ผู้อื่นเก็บไว้เพื่อตน" ให้หลวงปู่
สังวาลย์ฟัง ท่านก็เชื่อตามที่พระอาจารย์มหาทองสอน จึงได้ถือปฏิบัตินับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านไม่มีปัจจัยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
พระอาจารย์มหาทองได้กล่าวถึงอุปนิสัยของหลวงปู่สังวาลย์ว่า "เป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นศิษย์ที่ดี เคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ อดทนมีความเพียรสูง" ที่สำคัญที่สุดคือพุทธพจน์ที่พระอาจารย์มหาทองยกขึ้นแปลให้ฟังว่า "สมาทิงภิกขเว ภาเวถะ สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ" แปลความได้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ท่านพึงทำใจให้เป็นสมาธิ เพราะจิตที่เป็นสมาธิ ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง" จากพุทธพจน์บทนี้ท่านถือเป็นเครื่องเตือนสติในการบำเพ็ญเพียรในป่าช้าวัดบ้านทึงนั้นเป็นเวลา ๕ ปีเศษ ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติอันนี้เอง ทำให้ท่านสามารถรู้เห็นตามความเป็นจริง พวกเราทั้งหลายจึงได้มีครูบาอาจารย์ที่มีปัญญาอันเป็นที่สุดอย่างแท้จริงอีกท่านหนึ่ง สิ่งใดที่ท่านอาจารย์แนะนำ ท่านจะพยามดำเนินตามอย่างเคร่งคัด ท่านบอกว่า "ท่านเป็นตาสีตาสาชาวทุ่งชาวนา อีกทั้งด้อยการศึกษา หนังสือสักตัวเดียวก็อ่านไม่ออก เมื่อเป็นเช่นนั้นหากครูบาอาจารย์ผู้มีคุณธรรมเมตตาสอนอย่างไร ท่านจึงพยามทำอย่างนั้นประกอบกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่มีอยู่เปี่ยมล้นในจิตใจ ท่านจึงปฏิบัติตามแนวทางอันบริสุทธิ์ ที่อาจารย์แนะนำอย่างมอบกายถวายชีวิตกันเลยทีเดียว คุณสมบัติพิเศษที่พระอาจารย์มหาทองรับรองว่า การปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อสังวาลย์เห็นผลมากในพรรษาที่ ๓ จิตมีพลังสมาธิสูงมากได้ฌานสูงเกิดอภิญญาคุณ สามารถรู้อดีต อนาคต รู้จิตผู้อื่นได้ ฯลฯ
เมื่อมีผู้ถามว่าหลวงพ่อสังวาลย์ไม่รู้หนังสือ เมื่อมาบวชเรียนปฏิบัติธรรมแล้วทำไมจึงมีความรู้แตกฉาน ท่านจะตอบสั้นๆ ว่า "พระพุทธเจ้าสอนมนุษย์ทุกคนให้เป็นคนฉลาด ไม่ใช่สอนให้คนโง่" ระหว่างปฏิบัติธรรมในป่าช้า ท่านถือธุดงควัตรอย่างสม่ำเสมอ แม้การบิณฑบาตบางครั้งสังขารไม่อำนวย ท่านก็ไม่ยอมขาดในข้อบิณฑบาตเป็นวัตร พยายามอดทนต่อเวทนาที่เกิดขึ้น การปฏิบัติยึดหลักพุทโธและสติปัฏฐาน ๔ ท่านเล่าถึงป่าช้าวัดบ้านทึงว่า "อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านมาก มีต้นไม้ปกคลุมไปทั่ว ยามกลางคืนเงียบสงัด เหมาะแก่การภาวนา ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าช้าผีดิบ" ความน่ากลัวของป่าช้าแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือ ระยะแรกที่ท่านเข้าไปบำเพ็ญภาวนา ท่านได้ประสบเหตุการณ์หลายอย่าง แต่ท่านไม่ทิ้งองค์ภาวนา กลับภาวนาดียิ่งขึ้น นำเอาพระพุทธคุณมาเป็นที่พึ่งที่ระลึก ท่านพูดเสมอว่า "คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีอานุภาพมาก ถ้าเราขาดคุณของพระรัตนตรัยเสียแล้ว เราจะปฏิบัติเพื่อเอามรรคผลมันก็ยาก"
"อาตมามองเห็นคุณของพระพุทธศาสนา ส่วนอื่นๆ อาตมามองเห็นเป็นภัยไปหมด เพราะมันคอยถือว่าชาติ ชรา พยาธิ" "การดำเนินชีวิตในทางธรรมคือ ความดีงามของเรานั่นเอง"
หลวงปู่สังวาลย์อยู่ป่าช้าจนย่างเข้าสู่ปีที่ ๖ จึงออกจากป่าช้าด้วยเหตุที่มีการปรับปรุงบริเวณป่าช้าให้มีความเหมาะสม ท่านจึงย้ายไปสู่วัดทุ่งสามัคคีธรรมอันเป็นบ้านเกิดของท่าน เพื่อโปรดญาติโยมตามที่ได้นิมนต์ไว้ ถึงแม้ท่านจะต้องออกจากป่าช้ามาก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยหรือทอดทิ้งธุระในภาคการปฏิบัติแม้แต่น้อย ท่านจึงพูดเรื่องนี้ว่า "นักปฏิบัติจะทอดทิ้งการปฏิบัติไปไม่ได้ จนกว่าจะหมดลมหายใจ"
การออกเดินธุดงค์ของหลวงปู่สังวาลย์ ไม่บ่อยและไม่ไกลนัก เช่นภาคใต้ ไปถึงชุมพร (แวะพักที่สำนักวัดถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี) ส่วนมากก็ปฏิบัติอยู่กับที่ ท่านจะเดินทางเพื่อไปศึกษาแต่ละสำนัก เขาปฏิบัติกันอย่างไร หลวงปู่เคยเดินทางเพื่อไปศึกษาหลักธรรมที่วัดมหาธาตุ กับท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธฺมุนี (ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระสมัยนั้น) มีผู้ปฏิบัติกันมาก เป็นกรรมฐานที่มีแบบอย่างมาจากพม่าเป็นเวลา 4 เดือน
พระมหาเถระที่หลวงปู่สังวาลย์ถือเสมือนเป็นครูบาอาจารย์ของท่านคือ
1. หลวงปู่พระมหาทอง โสภโณ.
2. หลวงปู่สงฆ์ พรหฺมสโร
3. หลวงปู่บุคดา ถาวโร ซึ่งปฏิบัติธรรมคู่กับหลวงพ่อสงฆ์ที่ถ้ำเขาภูคาในอดีต ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อสังวาลย์ ปัจจุบันละสังขารไปหมดแล้ว
หลวงปู่สังวาลย์ ท่านเป็นพระที่ว่านอนสอนง่าย อาจารย์ท่านใดสอนอย่างไรก็ทำตามได้โดยไม่ติดขัดในกรรมฐานทุกบท เข้าใจในกรรมฐานทุกบท ครั้งหนึ่งขณะท่านนั่งภาวนาอยู่ในวิหารหลังเก่าของวัดทุ่งสามัคคีธรรม มีชายผู้หนึ่งเห็นท่านนั่งภาวนาก็คิดอยากจะทดสอบหรือจะด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ จึงจับตัวท่านหมุนเล่น หมุนเหมือนท่านนั้งบนเก้าอ้หมุน แต่ท่านไม่มีจิตคิดโกรธเลย ท่านกล่าวว่า "ความโกรธเป็นเสมือนเครื่องเสียดแทงสัตว์โลก จิตที่ปราศจากความโกรธเกิดขึ้นกับผู้ใดผู้นั้นย่อมเป็นสุข จะอยู่ที่ใดก็ดีเป็น "สุคโต" อยู่วัดทุ่งสามัคคีธรรมไม่นานท่านก็ออกเดินทางจากวัดทุ่งฯ มุ่งไปทางทิศเหนือถึงจังหวัดชัยนาท ท่านพบเขาสารพัดดี ท่านเดินลัดเลาะตามทางน้ำขึ้นไปสู่ยอดเขา ท่านก็ได้พบรอยพระพุทธบาท ตลอดจนซากอิฐเก่าบนยอดเขานั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นที่สัปปายะ ท่านจึงสร้างวัดเขาสารพัดดีขึ้น ทำทางขึ้นสู่ยอดเขา ปรับปรุงเสนาสนะตลอดจนสร้างหอประชุมสงฆ์เป็นรูปมณฑปสามมุกอันสง่างาม นับเป็นสัญลักษณ์ของวัดเขาสารพัดดีศรีเจริญธรรมมาจนกระทั่งทุกวันนี้
หลวงปู่สังวาลย์มีความเมตตาต่อลูกผู้หญิงเป็นอย่างมาก ท่านมิได้ถือว่าสตรีเพศเป็นเพศศัตรูอันตรายเพศพรหมจรรย์ ท่านกลับเมตตาสงสารเห็นว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส และมีความทุกข์มากกว่าบุรุษเพศ การเข้ามาศึกษาได้อย่างเต็มที่ พยามสอนตามภูมิธรรม ภูมิปัญญาของผู้ที่จะรับ บอกแล้วบอกอีก สอนแล้วสอนอีก ด้วยเมตตาธรรมและขันติธรรมอย่างยิ่ง ท่านถือว่า ผู้หญิงมีอาการครบ 32 หากเป็นผู้มีพระไตรปิฏกงดงามสมบูรณ์แล้วก็สามารถรองรับมรรคผลได้เช่นกัน สามารถทำกาย ใจให้เป็นพระได้เช่นเดียวกันกับเพศชาย ท่านแนะนำให้ลูกหญิงทั้งหลายเอาแบบอย่างคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเต็ม ผู้ทรงอภิญญาเป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนทั่วไป ท่านทำให้ผู้หญิงเกิดกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติยิ่งขึ้น ทั้งบังเกิดความอบอุ่นใจเพราะท่านเป็นพระครูบาอาจารย์ ที่เป็นนักปฏิบัติโดยแท้
หลวงปู่สังวาลย์ เขมโกได้ทุ่มเทกำลังแรง กำลังใจเสมอมา ในอันที่จะดำเนินรอยตามพระพุทธบาทของพระบรมศาสดา การประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของท่านอยู่ในธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดมาตลอด การสั่งสอนศิษย์ของท่าน เมื่อยู่นอกห้องกรรมฐานให้ใช้หลักอาณาปานสติคือ พุทโธ เมื่อเข้าห้องกรรมฐานบ่มอินทรีย์ท่านสอนให้ใช้ หนอ สมควรเป็นปูชนียบุคคล ปฏิปทาภาคปฏิบัติตลอดจนอรรถาธิบายอันละเอียดละออ แต่ง่ายแก่การเข้าใจ บ่งบอกถึงความมีปฏิสัมภิทาญาณอันสมบูรณ์ ธุดงควัตรที่ท่านทำมาจวบจนวัยชราเมื่อถึง พ.ศ. ๒๕๔๐ หลวงปู่สังวาลย์ เริ่มอาพาธด้วยโรคชราและอาพาธหนักเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๗ คณะศิษย์ทั้งบรรพชิตคฤหัสถ์ ได้พยายามดูแลรักษาทั้งที่โรงพยาบาลและที่วัดอย่างเต็มกำลังจนกระทั่งท่านมรณะภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันเพ็ญกลางเดือนหก ตรงกับวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๓ นาฬิกา ๑๕ นาที สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี ๕๕ พรรษา

ผ้ายันต์กันภัย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี ด้านหลังเป็นธงกฐินกาลมหาทานบารมี ขนาด 27x35 ซ.ม.

กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)

โทร.081-661-9989

LINE ID:kobsub456

Email:kobsub@hotmail.com


วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขานครปฐม ออมทรัพย์

หน้าที่เข้าชม1,704,873 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,227,616 ครั้ง
เปิดร้าน22 มี.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท4 ก.ย. 2568

081-6619989 ,083-9566942
พูดคุย-สอบถาม